April 14, 2014
จะว่าไปแล้ว....
ชีวิตของแพทย์นั้นไม่ใช้ชีวิตที่น่าชื่นชมแม้แต่น้อย แต่จะเต็มไปด้วย
ความวิตกกังวลเป็นบางครั้ง โดยเฉพาะเมื่อใดที่เจอคนไข้ที่รอความ
ตาย หรือเป็นโรคที่ทรมานจากความเจ็บปวด ไม่สามารถเดินเหิน
หรือช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่มีทางรักษาให้หายได้ จัดเป็นเหตุ
การณ์ที่น่าเป็นห่วง
ไม่เพียงแต่แพทย์ผู้ทำการรักษาเท่านั้น เพื่อนๆ และญาติพี่น้องทุกคน
ต่างมีส่วนช่วยทำให้คนไข้สบายใจขึ้นได้ โดยเฉพาะในด้านจิตใจ
ส่วนร่างกายก็ไม่ควรมองข้าม หรือละเลย เพราะคนที่เป็นโรคดังกล่าว
จะช่วยเหลือตนเองไม่ได้
โรค ”กิลแลง-บาร์เร” เมื่อเกิดขึ้นกับใครแล้ว เราจะพบว่า
มีผลกระทบทางด้านอารมณ์ได้สูงมาก และที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดเห็นจะ
เป็น อาการซึมเศร้า....บางรายถึงขั้นทำร้ายชีวิตตนเอง
ในรายที่มีความรุนแรง มันสามารถเกิดขึ้นได้อย่างฉับพลัน โดยมีการ
เปลี่ยนจากสภาพที่มีสุขภาพดี (healthy) กลายเป็นคนที่ไร้สมรรภภาพทันที่
ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยไม่อาการเตือนล่วงหน้าแม้แต่น้อย
แม้ว่า คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรค”กิลแลง-บาร์เร” สามารถฟื้นตัวสู่สภาพเดิมได้
ในที่สุดก็ตาม แต่การวินิจฉัยว่าใครเป็นโรคดังกล่าว ย่อมหมาย
ความว่า เราสามารถคาดได้ว่า เขาคนนั้นอาจกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่
ลำบากในระยะยาว หรืออาจเผชิญกับการเป็นอัมพาต...
คนที่เป็นโรคดังกล่าวมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากมาย
โดยเฉพาะาคนไข้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ
จิตบำบัดจากจิตแพทย์ก็เป็นเรื่องสำคัญ...
โดยจิตแพทย์มีบทบาทต่อการจัดการกับอารมณ์...ความวิตกกังวล รวมถึง
ภาวะซึมเศร้า อันเกิดจากโรคดังกล่าว
คนไข้อาจได้รับประโยชน์จากการพูดคุยกับคนอื่นๆ
ซึงเคยเป็นโรค “กิลแลง-บาร์เร” มาก่อน ปละจากการพูดคุยสามารถช่วยทำ
ให้คนเป็นโรคสบายใจขึ้น อย่างน้อยๆ จะทำให้เขาได้รู้สึกกว่า...
ไม่ใช้เขาคนเดี่ยวที่เป็นโรคดังกล่าว
<< BACK
Sources:
o Mayoclinic
o Healthline
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น