March 30, 2014
ถามว่า...
ถ้าใครสักคนเกิดเป็นโรคกระดูกต้นคอตีบแคบ (cervical spine stenosis)
เขาจะรู้สึกอย่างไร ?
ส่วนมากแล้วเราจะพบว่า โรคกระดูกต้นคอตีบแคบจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ
กินเวลานานกว่าจะมีอาการปรากฏให้รู้สึกได้ ที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะการ
สึกหรอของกระดุูกต้นคอ จะเกิดในช่วงหลังของชีวิต
ซึ่งเป็นสาเหตหลักที่ทำให้เกิดโรคกระดูกต้นคอตีบแคบในคนสูงอายุเสีย
เป็นส่วนใหญ่
แม้ว่าการสึกหรอของกระดูกคอ (degeneration) ได้ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นแล้ว
แต่อาการทั้งหลายจะไม่เกิดขึ้นพร้อมกันทันทีหรอก มียกเว้นเฉพาะใน
กรณีที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง (severe injury) หรือ หมอนกระดูกแตก
และมีส่วนที่แตกยื่นเข้าไปกดไขประสาท... ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการทันที
โดยทั่วไป อาการแรกที่ปรากฏในบางคนที่กระดูกคอตีบแคบ คือ
มีการเปลี่ยนแปลงในวิถีการเดิน (pattern of walking)
โดยเขาไม่ทราบว่า ปัญหาที่ก่อให้เกิดอาการดังกล่าว คือกระดูกคอ
เกิดการตียแคบนั้นเอง
แรงกด (pressure)ที่เกิดขึ้นกับไขประสาทในระดับต้นคอ อาจกระทบ
กับเส้นประสาท และกล้ามเนื้อของขาได้...เป็นเหตุทำให้เขาเดินผิดปกติ
ไปจากเดิม ซึ่งในระยะสุดท้าย จะพบรูปแบบของการเดินกระตุก (jerky)
และกล้ามเนื้อของขาไร้เรี่ยวแรงไป
รูปแบบการเดินกระตุกนั้น เขาเรียกว่า spasticity
คนส่วนใหญ่ืั้เป็นโรคดังกล่าว ยังมีปัญหาที่มือทั้งสองข้าง...
โดยคนไข้จะบอกให้เราทราบว่า เขาจะมีอาการชาที่บริเวณมือ (numb)
บางคนอาจรู้สึกการใช้มือของเขาจะไม่คล่องเหมือนก่อน...ไม่สามารถ
ทำงานที่ละเอียดประณิต เช่น งานเขียนหนังสือ หรือพิมพ์ดิด ...
การจับ และการปล่อยวัตถุสิ่งของกระทำด้วยความลำบาก ทั้งนี้เพราะ
กล้ามเนื้อทางด้านในของฝ่ามือและของนิ้วมือเกิดอ่อนแรงไป
มีคนไข้จำนวนไม่น้อยเกิดกล้ามเนื้อไหล่อ่อนแรง
ซึ่งมักจะเกิดในรายที่ไขประสาทส่วนบนของต้นคอถูกกด ทำให้กล้ามเนื้อ
ของกระดูกสะบัก (shoulder blade muscle) และกล้ามเนื้อ deltoid ลีบฝ่อไป
(atrophy)
การกดไขประสาท (spinal cord) ในบริเวณกระดูกต้นคอแคบ
ซึ่งใกล้กับรากประสาทที่ไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อต้นแขน และมือ สามารถทำ
ให้เกิดอาการปวดร้าวจากต้นคอไปยังไหล่, หลังส่วนบน,
หรือบางทีลงไปยังแขนทั้งสอง
นอกจากอาการปวดแล้ว เมื่อรากประสาทถูกกดยังสามารถทำให้เกิดอาการ
ชาที่ผิวหนังของแขน และมือ และสามารถทำให้กล้ามเนื้อเกิดการอ่อนแรง
ได้ด้วย
การกดไขประสาท (spinal cord) ยังก่อให้เกิดปัญหาทางลำไส้ และกระเพาะ
ปัสสาวะอีกด้วย
ในกรณีที่เป็นน้อย อาจทำให้คนไข้อยากถ่ายปัสสาวะบ่อยขึ้น
และบางครั้งอาจก่อให้เกิดปัญหาในการเริ่มต้นถ่ายปัสสาวะ (urinary hesitancy)
ในรายที่ไขประสาทกดในระดับพอประมาณ อาจทำให้แรงปัสสาวะอ่อนลง
(urinary flow)... ถึงปัสสาวะหยุดติง ๆ และอาจทำให้ถ่ายอุจจารลำบากถึงขั้น
ต้องออกแรงเบ่ง...
ในรายที่ไขประสาทถูกกดอย่างรุนแรง (severe case)...
คนไข้อาจไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะ และถ่ายอุจจาระได้เลย
เรียกภาวะดังกล่าวว่า incontinence
<< BACK P. 4 : Cervical spinal stenosis : Causes
NEXT >> P. 6 : Cervical spinal stenosis: Dianosis
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น