May 17, 2014
ในการวินิจฉัยสาเหตุของคนที่มีอาการอาหารไม่ย่อย จำเป็นต้องอาศัยการ
ซักประวัติ, การตรวจร่างกาย และการตรวจทางห้องปฏิบัติการณ์
ซึ่งถือเป็นขั้นตอนแรก ๆ ของการประเมินคนที่เพิ่งมีอาการอาหารไม่ย่อย
เป้าหมายที่สำคัญในการประเมินคนไข้ในระยะแรก คือการค้นหาสัญญาณ
เตือน (alarm fratures) โรคร้ายของระบบทางเดินอาหาร เช่น มะเร็ง
ของท่ออาหารขกระเพาะอาหาร (desophageal malignancy) และอื่น ๆ
ประวัติการเจ็บป่วย (History):
การซักประวัติความเจ็บป่วยอย่างละเอียด สามารถแยกโรคที่ไม่เกี่ยวข้อง
ออกไป เป็นต้นว่า การแยกโรคกรดไหลย้อน (GERD) และโรคที่เกิดจาก
การใช้ยา nonsteroidal anti-inflammatory drug (NSAID) ตลอดรวมไปถึงคน
ที่มีสัญญาณเตือนได้ ดังตัวอย่าง:
ประวัติของการมีอาการแสบหน้าอก (heartburn), กรดไหลย้อน
(regurgitation), หรือไอ (cough) เป็นอาการที่บ่งบอกให้ทราบ
ว่า เป็นโรค “gastroesophageal reflux (GERD)
ประวัติการใช้ยา NSAID จะเพิ่มโอกาสให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย
(dyspepsia) หรือโรคกระเพาะอาหารเป็นแผล (ulcer disease),
คนมีประวัติของอาหารไม่ยอย พร้อมกับมีอาการปวดร้าวไปยังด้านหลัง
หรือมีประวัติว่า มีสมาชิคในครอบครัวเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ เป็น
เครื่องชี้บ่งให้ทราบว่า ท่านอาจเป็นโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
มีประวัติน้ำหนักลดอย่างเด่นชัด, เบื่ออาหาร, อาเจียน, กลืนอาหารลำบาก,
และมีประวัติสมาชิคในครอบครัวเป็นมะเร็งของกระเพาะลำไส้...
จะชี้นำไปในทางเป็นมะเร็ง
มีอาการปวดอย่างรุนแรงที่บริเวณท้องส่วนบน หรือปวดท้องที่บริเวณ
ช่องท้องด้านขวาส่วนบน โดยมีอาการปวดนานมากกว่าชั่วโมง
หรืออาการปวดอาจเกิดเมื่อใดก็ได้นั้น...เป็นข้อชี้บ่งว่า อาการปวดนั้น น่าจะ
เป็นอาการปวดจากโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดีอักเสบ หรือมีนิ้่วในถุงน้ำดีได้
การตรวจร่างกาย (physical examination):
ในการตรวจร่างกายของคนที่มีอาการปวดท้อง...อาหารไม่ย่อยนั้น โดยทั่วไป
มักจะปกติ ยกเว้นกดเจ็บตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่ (epigastric area)
อาการกดเจ็บที่บริเวณท้องส่วนบน (epigastric pain) ไม่สามารถแยกโรค
ระหว่าง functional dyspepsia และ organic dyspepsia
ซึ่งอาศัย Canett sign เป็นตัวแยก: อาการที่กดเจ็บที่หน้าท้องในขณะเกร็งกล้าม
เนื้อท้อง จะมีต้นตอมาจากผนังหน้าท้องโดยตรง แต่หากอาการปวดลดน้อยลง
หรือในขณะปล่อยให้หน้าท้องหย่อนตัว เมื่อกดหนาท้อง แล้วพบว่ามีอาการ
กดเจ็บ แสดงว่าสาเหตุของความเจ็บปวดอยู่ใต้ต่อผนังหน้าท้อง
ข้อมูลอย่างอื่นที่ได้จากการตรวจร่างกาย ได้แก่ การตรวจพบก้อนในท้อง
ซึ่งอาจเป็นโรคตับโต (hepatoma) หรือคลำพบต่อมน้ำเหลือง
โตที่บริเวณ suprascapular หรือบริเวณรอบ ๆ สะดือ จะพบเห็นในคนที่เป็น
มะเร็งของกระเพาะอาหาร, ตัวเหลืองตาเหลือง
(พบในรายที่เป็นมะเร็งที่กระจายไปยังตับ),
การมีน้ำในช่องท้องอาจเป็นข้อชี้บอกให้ทราบว่า คนไข้มะเร็งในบริเวณเยื่อ
บุช่องท้อง (peritoneal carcinoatosis) นอกจากนั้น เราอาจตรวจพบการสูญเสียมวล
กล้ามเนื้อ และไขมันใต้ผิวหนังโดยทั่วไป และมีอาการปวดที่บริเวณขา และเท้า
อาจเป็นผลมาจากการมีน้ำหนักลดมากๆ ได้
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory tests):
การตรวจเลือด และตรวจสารเคมีในเลือด (blood chemistry) บางอย่าง เช่น
การตรวจ liver functinon test และอื่น ๆ เพื่อค้นหาสัญญาณเตือนถึงโรคอื่น ๆ เช่น
เบาหวาน, โรคตับ เป็นต้น
<< BACK NEXT >> p 5: Diagnostic strategies & initial Management
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น