May 16,2014
อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วว่า อาการ dyspepsia จะมีต้นเหตุมาจากระบบทาง
เดินอาหารส่วนบน (esophagus, stomach, และ duodenum) โดยไม่ทราบสาเหตุ
ถ้าท่านได้รับการตรวจ จะไม่พบความผิดปกติใดภายในบริเวณดังกล่าว
(เยื้อบุผิว จะมีความเป็นปกติ ไม่มีการอักเสบ, ปริมาณของกรดภายใน
กระเพาะอาหารมีจำนวนปกติ)
มีหลายทฤษฎีที่พยามอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดทั้อง:
ความรู้สึกในกระเพาะอาหาร และลำไส้ส่วนบนอาจเปลี่ยนแปลงไป:
ประมาณ 1 ใน 3 ของคนที่เป็น non-ulcer dyspepsia เกิดมีอาการ
ของลำไส้แปรปรวน (irritable bowel syndrome) โดยมีอาการปวดท้องบริเวณ
ด้านล่าง... ซึ่งไม่ทราบสาเหตุเช่นกัน
การเคลื่อนของอาหาร:
ภายหลังการคลุกเคล้าของอาหารในกระเพาะเป็นที่เรียบร้อย การเคลื่นตัวสู่
ลำไส้ส่วนบน อาจช้าลงในบางราย โดยกล้ามเนื้อของกระเพาะอาหารอาจ
ทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
การอักเสบจากเชื้อ H. Pylori อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการได้ในบางราย
โดยปรากฏว่า มีเชื้อแบคทีเรีย H. Pylori ในกระเพาะอาหารของคนที่เป็นโรค
non-ulcer dyspepsia
อย่างไรก็ตาม มีคนเป็นจำนวนไม่น้อยที่พาหะ (carriers) ของเชื้อ H. Pylori
โดยที่ีเขาเหล่านั้นไม่มีอาการปวดท้องใดๆ
เกิดมีข้อถกเถียงในบทบาทของ H. pylori ในคนที่เป็นโรค non-ulcer dyspepsia
อย่างไรก็ตาม การรักษาการอักเสบด้วยการกำจัดเชื้อ H. Pylori
อาจช่วยในคนไข้บางราย
ในบางคน อาหาร และเครื่องดื่มบางชนิดอาจเป็นเหตุทำให้เกิดอาการ dyspepsia
หรือ อาจทำให้อาการปวดท้องที่มีเลวลงได้ โดยเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า..
ทำไม ?
ความเครียด, ซึมเศร้า, หรือความวิตกกังวล ถุูกคิดว่า
ทำให้อาการปวดท้องเลวลงได้
ผลข้างเคียงจากยาบางตัว สามารถทำให้เกิดอาการ dyspepsia ได้
ที่เป็นปัญหามากสุด คือยากลุ่ม NSAIDs เช่น ibuprofen, aspirin
มียารักษาหลายตัว บางครั้งสามารถทำให้เกิดอาการ dyspepsia
หรือทำให้อาการเลวลงได้ เช่น antibiotics, steroids, iron,
Calcium antagonists, nitrates, theophyllines, bipphosphonates
<< BACK NEXT >> p 5: What tests may be done ?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น