8/9/12
Artherosclerosis…
หมายถึงภาวะเส้นเลือดแดงตีบแคบลง เป็นเหตุให้กระแสไหลเวียน
ของเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญ เช่น หัวใจ, สมอง, และ ลำไส้.
หมายถึงภาวะเส้นเลือดแดงตีบแคบลง เป็นเหตุให้กระแสไหลเวียน
ของเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญ เช่น หัวใจ, สมอง, และ ลำไส้.
ในคนไข้ที่เส้นเลือดแดงแคบลง
จะเกิดขึ้นได้จากการมีคราบของไขมันไปเกาะตามผิวด้านในของเส้นเลือด
และคราบไขมันเหล่านั้น ประกอบด้วย LDL cholesterol,
เซลล์ของกล้ามเนื้อเรียบ(smooth muscle cells) และ
เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue) และ บางครั้งมีธาตุแคลเซี่ยมด้วย
จะเกิดขึ้นได้จากการมีคราบของไขมันไปเกาะตามผิวด้านในของเส้นเลือด
และคราบไขมันเหล่านั้น ประกอบด้วย LDL cholesterol,
เซลล์ของกล้ามเนื้อเรียบ(smooth muscle cells) และ
เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue) และ บางครั้งมีธาตุแคลเซี่ยมด้วย
เมื่อขนาดของคราบไขมันตามผิวด้านในของเส้นเลือดแดง
มีขนาดโตขึ้น มันจะทำให้ผิวเส้นเลือดแดงขลุขละ ซึ่งปกติมันจะมีผิวเรียบ
ผิวขลุขละที่เกิดขึ้น จะมีแนวโน้มให้มีการสร้างก้อนเลือด
ซึ่ง สามารถทำให้การเกิดการอุดตันของการไหลเวียนของเลือด
ทำให้อวัยวะที่มีเส้นเลือดเกิดการอุดตัน ขาดเลือด, ออกซิเจน
เป็นเหตให้เซลล์ของอวัยวะนั้น ๆ ตาย หรือถูกทำลายลงได้
มีขนาดโตขึ้น มันจะทำให้ผิวเส้นเลือดแดงขลุขละ ซึ่งปกติมันจะมีผิวเรียบ
ผิวขลุขละที่เกิดขึ้น จะมีแนวโน้มให้มีการสร้างก้อนเลือด
ซึ่ง สามารถทำให้การเกิดการอุดตันของการไหลเวียนของเลือด
ทำให้อวัยวะที่มีเส้นเลือดเกิดการอุดตัน ขาดเลือด, ออกซิเจน
เป็นเหตให้เซลล์ของอวัยวะนั้น ๆ ตาย หรือถูกทำลายลงได้
Atherosclerosis…
สาเหตุหลัก ที่ทำให้คนเสียชีวิต หรือ เกิดความพิการ
ซึ่ง มีโรคที่ซ้อนเร้นในคนไข้ที่มีโรคดังต่อไปนี้:
o Coronary artery disease. เป็นโรคเรื้อรังของหลอดแดงของหัวใจ
ซึ่งเกิดการตีบแคบ สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก (angina) นอกจากนั้น
ยังทำให้คนไข้ยังมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย (heart attack)
o Stroke. ก้อนเลือดอาจเกิดขึ้นภายในเส้นเลือดแดง ที่ไปหล่อเลี้ยงสมอง
ซึ่ง เกิดแคบโดยคราบไขมัน เมื่อมีก้อนเลือดเกิดขึ้น
มันจะตัดเลือดไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองขาดเลือด (thrombotic stroke)
ปัจจุบัน มีประมาณ 75 % ของคนที่เป็นโรคสมองถุฃกทำลาย (stroke)
เกิดจาก thrombotic stroke
o Abdominal angina and bowel infarction. เมื่อเส้นเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยง
ลำไส้ เกิดการตีบแคบลง เพราะคราบไขมันเกาะตามผิวด้านในของเส้นเลือด
ย่อมสามารถทำให้เกิดอาการปวดท้องจากภาวะขาดเลือด
เรียก abdominal angina
หากเส้นเลือดแดง ที่ไปหล่อเลี้ยงลำไส้เกิดการอุดตัน
สามารถทำให้เกิดลำไส้ตายเพราะขาดเลือด (bowel infarction) ได้
การเกิดภาวะ bowel infarction จะมีลักษณะคล้ายๆ กับ heart attack
แต่มันจะเกิดขึ้นกับลำไส้ ไม่ใช่เกิดขึ้นกับหัวใจ
o Atherosclerosis of the extremities.เมื่อเส้นแดงของขา
เกิดการตีบตันจากคราบไขมัน เช่น เส้นเลือด femoral และ politeal arteries
โดยที่เส้นเลือดทั้งสองเส้นเกิดการตีบตัน
สามารถก่อให้เกิดปัญหาได้ 80 % ถึง 90% ทำให้เลือดไปเลี้ยงขาลดลง
เป็นเหตุให้เกิดอาการกล้ามเนื้อปั้น (crampy) ขณะออกกำลังกาย
เรียก intermittent claudication และหากเส้นเลือดเกิดการอุดตัน
อาจทำให้เกิดการสูญเสียขาในที่สุด
o Other conditions. นอกเหือจากที่กล่าว
การที่มีคราบไขมันไปเกาะตามผนั'ของเส้นเลือด อาจก่อให้ เกิดการโป่งพอง
ของผนังเส้นเลือด มีชื่อเรียก aneurysm หรือทำให้เส้นเลือดตีบแคบลง
เช่น renal atery stenosis
สาเหตุหลัก ที่ทำให้คนเสียชีวิต หรือ เกิดความพิการ
ซึ่ง มีโรคที่ซ้อนเร้นในคนไข้ที่มีโรคดังต่อไปนี้:
o Coronary artery disease. เป็นโรคเรื้อรังของหลอดแดงของหัวใจ
ซึ่งเกิดการตีบแคบ สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก (angina) นอกจากนั้น
ยังทำให้คนไข้ยังมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย (heart attack)
o Stroke. ก้อนเลือดอาจเกิดขึ้นภายในเส้นเลือดแดง ที่ไปหล่อเลี้ยงสมอง
ซึ่ง เกิดแคบโดยคราบไขมัน เมื่อมีก้อนเลือดเกิดขึ้น
มันจะตัดเลือดไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองขาดเลือด (thrombotic stroke)
ปัจจุบัน มีประมาณ 75 % ของคนที่เป็นโรคสมองถุฃกทำลาย (stroke)
เกิดจาก thrombotic stroke
o Abdominal angina and bowel infarction. เมื่อเส้นเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยง
ลำไส้ เกิดการตีบแคบลง เพราะคราบไขมันเกาะตามผิวด้านในของเส้นเลือด
ย่อมสามารถทำให้เกิดอาการปวดท้องจากภาวะขาดเลือด
เรียก abdominal angina
หากเส้นเลือดแดง ที่ไปหล่อเลี้ยงลำไส้เกิดการอุดตัน
สามารถทำให้เกิดลำไส้ตายเพราะขาดเลือด (bowel infarction) ได้
การเกิดภาวะ bowel infarction จะมีลักษณะคล้ายๆ กับ heart attack
แต่มันจะเกิดขึ้นกับลำไส้ ไม่ใช่เกิดขึ้นกับหัวใจ
o Atherosclerosis of the extremities.เมื่อเส้นแดงของขา
เกิดการตีบตันจากคราบไขมัน เช่น เส้นเลือด femoral และ politeal arteries
โดยที่เส้นเลือดทั้งสองเส้นเกิดการตีบตัน
สามารถก่อให้เกิดปัญหาได้ 80 % ถึง 90% ทำให้เลือดไปเลี้ยงขาลดลง
เป็นเหตุให้เกิดอาการกล้ามเนื้อปั้น (crampy) ขณะออกกำลังกาย
เรียก intermittent claudication และหากเส้นเลือดเกิดการอุดตัน
อาจทำให้เกิดการสูญเสียขาในที่สุด
o Other conditions. นอกเหือจากที่กล่าว
การที่มีคราบไขมันไปเกาะตามผนั'ของเส้นเลือด อาจก่อให้ เกิดการโป่งพอง
ของผนังเส้นเลือด มีชื่อเรียก aneurysm หรือทำให้เส้นเลือดตีบแคบลง
เช่น renal atery stenosis
มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดตีบแคบ
(atherosclerosis) ซึ่งได้แก่:
- High level of blood cholesterol (hypercholesterolemia)
- Low level of HDL (the "good cholesterol")
- High levels of C-reactive protein, a marker for inflammation
- High blood pressure (hypertension)
- Diabetes
- Family history of coronary artery disease at an early age
- Cigarette smoking
- Obesity
- Physical inactivity (too little regular exercise)
- Older age
(Symptoms)
โรคเส้นเลือดตีบแข็ง (atherosclerosis) มักจะไม่มีอาการแสดงใด ๆ
จนกว่าเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะลดลง เมื่อมันเกิดขึ้น
อาการที่เกิดจะแตกตางกันไป โดยขึ้นกับอวัยวะที่เกี่ยวข้อง
o Heart. อาการที่เกิด ประกอบด้วยอาการเจ็บหน้าอก
และหายใจลำบาก,เหงื่อออก, หายใจลำบาก, วิงเวียน หรือ ใจสั่น
o Brain. เมื่อเส้นเลือดแดงของสมองแคบ และตีบตัน สามารถก่อให้เกิด
อาการวิงเวียน, อ่อนแรง หรืออัมพาติของด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย,
มีอาการชาด้านใดด้านหนึ่งของร่างกายอย่างเฉียบพลัน, สายตาพล่ามัว
หรือตาบอดไปเลย, เดินลำบาก, มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ไม่ประสานกัน, มีปัญหาการใช้คำพูด
ถ้าอาการหายไปในเวลาน้อยกว่า 24 ชั่วโมง เราเรียกภาวะนั้นว่า transient
Ischemic attack (TIA) แต่หากเส้นเลือดของสมองเกิดการอุดตันอย่างส้นเชิง
จะทำให้อาการที่กล่าวถึงมีได้นานขึ้น เราเรียกว่า stroke
o Abdomen. เมื่อเส้นเลือดแดงของลำไส้เกิดการตีบแคบ
อาจทำใหเกิดอาการเจ็บท้อง กล้ามเนื้อปั้นตรงบริเวณรอบๆ สะดือ
ส่วนมากจะเกิดภายใหลังการรับทานอาหารได้ 30 นาที
หากมีการอุดตันเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงลำไส้ อาจทำให้คนไข้ปวดท้องอย่ารุนแรง
บางครั้งอาจมีอาการร่วมอย่างอื่น เช่น อาเจียนฒ ท้องล่วง, หรือ ท้องบวม
o Legs. เมื่อเส้นเลือดแดงของขาเกิดการตีบแคบ
อาจทำให้คนไข้เกิดอาการ ของกล้ามเนื้อขาปั้น (crampy leg)
โดยเฉพาะในขณะออกกำลังกาย หากภาวะเส้นเลือดตีบแคบเป็นมาก
แม้แต่ขณะพักผ่อน อาจมีอาการ ปวดขา มีอาการเย็นที่เท้า และ นิ้วเท้า
ผิวหนังของเท้าอาจมีเป็นสีคล้ำ และอาจทำให้ขนหน้าแข็งหายไป
Continued 2: Atherosclerosis: Diagnosis & Treatment
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น