วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

End-Stage Renal Disease 1

8/17/12


ได้มีโอกาสสัมผัสกับคนสูงวัย...
จะพบว่า  มีคนไทยจำนวนไม่น้อยเป็นโรคไตโดยที่เขาไม่รู้ตัวมาก่อน
มารู้ตัวว่าเป็นโรคไต...เมื่อแพทย์ตรวจพบ  จึงได้ทราบว่า  
ตนเองเป็นโรคไตวายไปเสียแล้ว  

What is it?
โรคไตระยะสุดท้าย  เป็นภาวะ 
ที่ไตทั้งสองไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
ซึ่งเราจะหมายถึง  โรคไตที่ทำงานได้น้อยกว่า 15 % ของความสามารถ
ที่ไตสามารถทำได้ตามปกติ  เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว 
แพทย์เรามีทางเดินเพียงสองที่ต้องเดิน  หนึ่งฟอกเลือด (dialysis)  และสอง 
ซึ่งเป็นวิธีที่ยากหน่อย  คือ ผ่านตัดเปลี่ยนไต

จากสถิตของสหรัฐฯ...
เขาพบว่า  คนที่เป็นโรคไตวายนั้น  หนึ่งในสามเป็นผลมาจาก
โรคเบาหวาน (diabetic nephropathy)  ซึ่งเป็นสาเหตุที่สำคัญทำให้ไตถูก
ทำลาย  จนถึงขั้นสุดท้าย (end-stage renal disease)

คนเป็นเบาหวานประเภทหนึ่ง (DM1) 
สุดท้ายจะลงเอยด้วยการเป็นโรคไตระยะสุดท้ายได้ถึง 10 % 
สำหรับ เบาหวานประเภทสอง (DM2) ก็สามารถลงเอยสู่ไตวายระยะสุดท้ายเช่นกัน
ไม่ว่าคนไข้จะเป็นเบาหวานประเภทใดก็ตามเถิด  สาเหตุส่วนใหญ่ 
ที่ทำให้เกิดไตวายได้  เป็นเพราะ  
เราไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้นั่นเอง

นอกเหนือไปจากนั้น  ยังสาเหตุอื่น ๆ
ที่ทำให้เกิดโรคไตวาย (ระยะสุดท้าย)  ซึ่งพบได้บ่อย  ได้แก่:
 o   ความดันโลหิตสูง (hypertension)
 o   โรคเส้นเลือด (artherosclerosis),  โรคทาง rheumatic ,
หรือ โรคทางระบบภูมิคุ้มกัน  เช่น Lupus),  โรคทางพันธุกรรมต่าง ๆ
เช่น polycystic kidney disease,
  o   สัมผัสกับพิษของยา  เช่น  ยาปฏิชีวนะ  สารเคมี (รักษา), ยาแก้ปวด NSAIDs



อาการแสดง (Symptoms)
อาการแสดงของโรคไตขั้นสุดท้าย  ประกอบด้วย  น้ำหนักตัวลด, คลื่นไส้อาเจียน,
รู้สึกไม่สบาย (malaise), อ่อนเพลีย, ปวดศีรษะ, สอึก (hiccups), ปัสสาวะน้อยลง,
ฟกช้ำ หรือเลือดออกง่าย, ไร้เรี่ยวแรง (lethargy), หายใจลำบากและ  ชักกระตุก
อาการต่าง ๆ ที่กล่าวมา  อาจมีน้อย  หรือไม่มีเลย 
ซึ่งส่วนใหญ่  อาการจะกิดขึ้น  เมื่อการทำงานของไตลดลง
เหลือน้อยกว่า 20 %  ของการทำงานได้ตามปกติ



โดยทั่วไป  คนเป็นโรคไต  ใช้ว่าจะมันจะเลวลงอย่างปุบปับ..


มันจะค่อย ๆ เสื่อมลงอย่างช้า ๆ  กินเวลาหลายปี  ก่อนที่จะถึงขั้นสุดท้าย


การตรวจเลือดจะพบ  ระดับของ creatinine, BUN  
ซึ่งเป็นสารเคมีในกระแสเลือดในปริมาณสูง 
ซึ่ง  เป็นหน้าที่ของไตจะต้องทำหน้าที่กำจัด  และขับทิ้งทางปัสสาวะไป

เมื่อเกิดภาวะไตถูกทำลายถึงระยะสุดท้าย...


การพิจารณาฟอกเลือด (dialysis) จะต้องกระทำอย่างรีบด่วน (urgent) 
เมื่อคนไข้มีอาการ หนึ่ง หรือมากกว่าขึ้น  เช่น:

o   มีการอักเสบของเยื้อหุ้มหัวใจ (pericarditis)
o   มีน้ำคั่งในร่างกาย หรือเกิดภาวะหัวใจวาย (CHF)
o   มีสารหลายอย่าง  ที่มีผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่าง  กาย 
เช่น  potassium, sodiums, และ กรด ต่าง ๆ
o   มีอาการสับสน ความตื่นตัวลดลง หรือ เกิดการชักขึ้น
o   เลือดออก ซึ่งสัมพันธ์กับโรไตวาย  ซึ่งไม่สามารถทำให้ดีขึ้นโดยวิธีอื่นใด
o   มีอาการคลื่นไส้  อาเจียนอย่างรุนแรง ไม่สามารถทำให้ทุเลาลงได้
o   การฟอกเลือด (dialysis) อาจจำเป็นต้องทำ  ถ้าอาการมีผลกระทบต่อชีวิต
และอื่น ๆ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น