8/7/12
ปัญหาสุขภาพที่คนเป็นเบาหวานควรรู้...
โรคเบาหวานสามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้
ส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาที่เกิด มักมีส่วนสัมพันธ์กับเส้นเลือดแดง (Arteries)
และ เส้นประสาท(Nerves)
เกี่ยวกับเส้นเลือดแดง (Arteries)
เบาหวานประเภทสอง (DM2) สามารถทำให้เกิดการทำลาย (damage)
เส้นเลือดแดงทั้งขนาดใหญ่ และ ขนาดเล็ก และ เมื่อเส้นเลือดแดงถูกทำลายไป
จะก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพได้หลายอย่าง และ เป็นอันตรายด้วย
เช่น:
เส้นเลือดแดงทั้งขนาดใหญ่ และ ขนาดเล็ก และ เมื่อเส้นเลือดแดงถูกทำลายไป
จะก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพได้หลายอย่าง และ เป็นอันตรายด้วย
เช่น:
o Heart attack- คนเป็นเบาหวานประเภทสอง มีประมาณ 2 ถึง 4 เท่าของคนไม่
เป็นเบาหวานประเภทสอง มีความเสียงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ
คนที่มีอายุกลางคน เป็นเบาหวานประเภทสอง มีความเสี่ยงต่อการเกิด heart attack
ได้เท่ากับคนที่ไม่เป็นโรคเบาหวาน แต่เคยมีประวัติ heart attack มาก่อน
และ มีโอกาสตายเร็วกว่าคนไม่เป็นโรคเบาหวาน
o Stroke- คนเป็นโรคเบาหวาน ประเภทสอง มีโอกาสเกิดภาวะสมองถูกทำลาย
ถึง 2 – 4 เท่าของคนที่ไม่เป็นเบาหวาน
o Amputation- สถิติจากสหรัฐฯ รายงานว่า คนที่ต้องเสียขาก่อนนั้น มีมากกว่าครึ่ง
มีต้นเหตุจากโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นผลมาจากเส้นเลือดแดงของขาถูกทำลาย
เป็นเหตุให้เกิดมีแผลเปิดที่ผิวหนัง และ อักเสบเกิดขึ้น จนถึงขั้นต้องตัดขาทิ้งไป
o Kidney failure — มีประมาณ 40 % ของคนที่จำเป็นต้องทำการฟอกเลือด (dialysis)
เป็นเพราะเขาเป็นโรคไตวายจากโรคเบาหวาน
(มีเพียง 4 % ถึง 6 % ของคนเป็นเบาหวาน ต้องลงเอยด้วยการเป็นโรคไตวาย และ
จำเป็นต้องฟอกเลือด-dialysis)
Blindness- โรคเบาหวานสามารถทำลายตา ด้วยการทำลายเส้นเลือดเส้นเล็ก ๆ
ของจอภาพ (retina) ของลูกตา ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย
และมักเกิดในช่วงระหว่าง 20 – 74 ปี
ปัญหาที่เกิดกับเส้นเลือดเหล่านี้ เป็นผลแทรกซ้อนที่เกิดในโรคเบาหวาน ประเภทสอง
ทำไมโรคเบาจึงทำให้เส้นเลือดแดงถูกทำลาย ?
คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ โรคเบาหวานมักจะเกิดร่วมกับโรคอื่น ๆ เสมอ
ซึ่งมักเกิดร่วมกับโรคอื่น ๆ ซึ่ง ทำให้เส้นเลือด และหัวใจอยู่ตกอยู่ในอันตราย
โรคที่มักเกิดร่วมกับเบาหวาน ได้แก่ ความดันโลหิตสูง, ความอ้วน,
และ มีระดับไขมัน Cholesterol ในเลือดสูง
ปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างของโรคหัวใจ และ เส้นเลือด เมื่อเกิดร่วมกัน...มันมีแนวโน้มที่
จะก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ เราเรียกปัจจัยที่รวมกันเหล่านั้นว่า
เป็น Metabolic syndrome และเมื่อใดทีท่านสามารถให้การักษาปัจจัยเหล่านั้นได้
ท่านจะสามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะ heart attack และ ปัญหาอื่น ๆ
ทีเกิดจากเส้นเลือดแดงถูกทำลายได้
(Nerves)เส้นประสาท
โรคเบาหวาน ประเภทสอง มักจะทำลายเส้นประสาทอีกด้วย
ประมาณว่า 60 % ถึง 70 % ของคนที่เป็นโรคเบาหวาน จะทำลายเส้นประสาท
ด้วย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงพอสมควร ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากเส้นประสาทถูกทำลาย
ได้แก่:
ได้แก่:
o Peripheral neuropathy- เมื่อเส้นประสาทของขา และเท้าของคนเป็นเบาหวาน
ถูกทำลาย จะทำให้เกิดมีอาการปวดเสียว (tingling, pain)
หรือ ไม่มีความรู้สึก(numbness) และปัญหาที่เกิดขึ้น มักทำให้เกิดมีแผลที่เท้า
และทำให้เกิดอักเสบขึ้น ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการตัดขาได้สูง
o Stomach and bowel problems- เส้นประสาท ซึ่งทำหน้าที่ทำให้กระเพาะ –ลำไส้
ทำหน้าที่ในการย่อยอาหารได้ตามปกติ แต่ในรายที่เป็นโรคเบาหวาน
และมีการทำลายเส้นประสาทของกระเพาะ และลำไส้
จะทำให้การเคลื่อนไหวของกระเพาะ-ลำไส้ลดลง ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
ผลที่เกิดขึ้น ย่อมทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องผูก หรือท้องล่วง
กระเพาะที่ทำงานได้ช้าลง ไม่สามารถทำให้อาหารผ่านลงสู่ลำไส้ได้ตามปกติ
เราเรียกว่าภาวะดังกล่าวว่า gastroparesis
o Dizziness when standing- ในคนปกติ ร่างกายของมนุฅษย์เรา
สามารถปรับตัวได้ เช่น เวลาเรายืนขึ้น เลือดจากนิ้วเท้าจะไหลสู่ลำตัว
และสู่สมองได้ตามปตกิ ที่ทำได้เช่นนั้น เป็นเพราะหัวใจจะปั้มเลือดต้านแรงถ่วง
ของโลกได้ พร้อม ๆ กับมีการหดเกร็งของเส้นเลือด
ที่เป็นเช่นนั้นได้ เป็นเพราะมันอยู่ภายใต้สัญญานคลื่นประสาท
สั่งให้มันทำงานดังกล่าว
แต่เมื่อใดก็ตาม ประสาทของคนเป็นโรคเบาหวานถูกทำลาย
คลื่นประสาท ที่เคยทำหน้าที่ได้ ไม่สามารถสั่งให้เส้นเลือด และหัวใจทำงานได้
ตามปกติ เป็นเหตุให้เกิดอาการวิงเวียน รู้สึกเหมือนจะเป็นลมได้
o Sexual – function problems- การสูญเสียสมรรถภาพทางเพศ
มักจะพบได้ในคนเป็นโรคเบาหวาน เป็นภาวะที่พบได้บ่อยเมื่อเส้นประสาทถูกทำลายไป
นอกจากนั้น เส้นเลือดแดงของอวัยวะเพศที่ถูกทำลาย
ก็เป็นเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดการสูญเสียสมรรถภาพทางเพศได้เช่นกัน
o Localized nerve failures- ในคนเป็นเบาหวาน จะพบว่า
เส้นประสาทเพียงเส้นเดียวที่หล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อมัดเดียว เมื่อถูกทำลายไป
จะทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อมัดนั้นเสียไป ยกตัวอย่างที่พบเสมอ ได้แก่
กล้ามเนื้อของลูกตาเสียไป จะทำให้เห็นภาพซ้อน หรือเส้นประสาทกล้ามเนื้อของเท้า
ทำให้กระดกเท้าไม่ได้ (foot drop) หรือเส้นประสาทของกล้ามเนื้อใบหน้าถูกทำลาย
ทำให้กล้ามเนื้อของแก้มอัมพาติ ทำให้แก้มด้านนั้นหย่อนลง เรียก Bell’s palsy
ปัญหาต่าง ๆ ทีกล่าวสามารถเกิดขึ้นกับคนเป็นโรคเบาหวาน ทำให้คนไข้มีอายุสั้นลง
เมื่อมีภาวะแทรกซ้อน หรือปัญหาต่าง ๆ ถ้าเกิดขึ้น จะลดคุณภาพชีวิตของคนไข้ลงได้
แต่เราสามารถป้องกันได้ ด้วยการควบคุมเรื่องอาหาร และการออกกำลังกาย,
ใช้ยารักษา และ ควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดให้ไกล้เคียงกับปกติ
ตลอดรวมไปถึงการป้องกันอย่างอื่น ๆ ย่อมสามารถ ทำให้คนเป็นเบาหวาน
มีชีวิตร่วมกันโรคเบาหวานได้อย่างมีความสุขได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น