วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Monitoring Blood Sugar and Ketones

8/13/12

ในการควบคุมโรคเบาหวาน...
หัวใจสำคัญของการรักษาโรคเบาหวานได้ดีที่สุด  คือ การตรวจดู
ระดับนำตาลที่แม่นยำ  และ  จากค่าของการตรวจระดับของน้ำตาลที่ได้ 
จะทำให้แพทย์จะตัดสินใจในการเลือกใช้ยา, อาหาร  และ การออกกำลังกายนั้น 
จำเป็นต้องอาศัยระดับน้ำตาล  ที่วัดได้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา

ท่านจะเป็นต้องเข้าใจว่า  เขาตรวจกันอย่างไร,  ผล,
และเข้าใจรูปแบบต่าง ๆ

Daily Glucose Monitoring
การตรวจน้ำตาลในเลือด  เราจะใช้เครื่องมือ  เรียก blood-glucose meter
หรือ glucometer  ซึ่งกระทำได้โดยการหยดเลือด “จิ้ม” ด้วยเข็มจากปลายนิ้วมือ
แล้วหยดบนเครื่อง  glucometer  ซึ่งมันจะบอกค่าเป็นตัวเลขเป็น mg/dL

ในคนที่เป็นเบาหวานประเภทหนึ่ง  จะตรวจดูระดับน้ำตาลวันละสามครั้ง
และเพื่อการควบคุมระดับน้ำตาลได้อย่างดี   จำเป็นต้องตรวจดูระดับน้ำ
ตาลในเลือดอย่างน้อยวันละสี่ครั้ง

ซึ่งหมายความว่า  การตรวจแต่ละครั้ง
จะทำการตรวจก่อนรับทานอาหาร และก่อนนอน 
มีบางครั้ง  อาจทำการตรวจบ่อยกว่านั้น  และ อาจจำเป็นต้องทำการตรวจอีกครั้ง
ถ้าหากเกิดมีอาการเกิด  ในช่วงทีทำการตรวจเลือด 
หรือ เมื่อต้องการจะปรับขนาด  insulin

ในการตรวจดูระดับน้ำตาลในเลือด...
มีการรายงานเป็นสองรูปแบบ  บางครั้ง ถูกรายงานเป็นจำนวนของน้ำตาล “กลูโกส”
ในตัวอย่างเลือด  ที่ได้จากเลือดทั้งหมด  ซึ่งในกรณีดังกล่าว 
เม็ดเลือดแดงจะกินที่  และทำควมาเข็มข้นของน้ำเลือด (plasma) ลดลง
( plasma คือน้ำเลือดที่เอาเม็ดเลือดออก)

ในสมัยก่อน  เครื่องตรวจน้ำตาล (glucometer)..
จะรายงานระดับน้ำตาลจากเลือดทั้งหมด (whole blood) 
แต่ในปัจจุบัน  glucometer จะรายงานระดับน้ำตาลในน้ำเลือด(plasma)  และ
ผลที่ที่ได้จากการตรวจน้ำตาลในน้ำเลือด (plasma) จะมีค่าสูงกว่าค่าที่ได้จากการ
ตรวจเลือดที่ไม่ได้ถูกแยกส่วน (whole blood) ถึง 10 %  ถึง 15 %

และ ผู้เชี่ยวชาญ  ชอบที่จะได้ค่าของระดับน้ำตาลในน้ำเลือด (plasma) มากกว่า
ระดับของน้ำตาลในเลือดที่กำหนดเป็นเป้า  บางที่เรียก tight sugar control
หรือ  Optimum control  ซึ่งเป็นเป้าที่ถูกใช้กันอย่างกว้างขวาง 

the American Diabetes Association  กำหนดให้ระดับน้ำตาลจากน้ำเลือด (plasma)
ของคนที่เป็นโรคเบาหวาน  ที่ต้องควบคุม (tight control) คือ  90 – 130 mg/dL 
ซึ่ง เป็นค่าของน้ำตาลวัดได้ก่อนอาหาร  และวัดได้ต่ำกว่า 180 mg/dL  หลังรับทาน
อาหาร 2  ชั่วโมง

เป้าหมายดั้งกล่าว  ได้จากผลทางวิจัย...
ในการรักษาเบาหวาน  เราต้องทำให้ระดับน้ำตาลในเลือด 
ให้อยู่ใกล้เคียงกับค่าปกติให้มากที่สุด   ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงในระยะยาว  
จากภาวะแทรกซ้อน  จากโรคเบาหวานได้

ในการรักษาเบาหวาน...
แพทย์จะตั้งเป้าหมายของระดับน้ำตาล สำหรับท่านเอาไว้
ระดับเป้าหมายที่ตั้งไว้ (tight control) ไม่เหมาะสำหรับทุกคน  ยกตัวอย่าง...
ในเด็ก  อาจจะอายุน้อยเกินกว่าจะรู้อาการของภาวะน้ำตาลลดต่ำ (hypoglycemia)
ในเด็ก  อาจจำเป็นต้องตั้งให้ระดับนำตาลไว้สูงหน่อย  จะปลอดภัยสำหรับเด็ก

สำหรับคนแก่  ที่มีโรคหัวใจ  อาจจำเป็นต้อมีระดับน้ำตาลสูงหน่อย 
เพราะการปล่อยให้ระดับน้ำตาลต่ำ  อาจมีอันตรายได้มากกว่า 
ซึ่งคนแก่บางราย  อาจไม่มีอาการที่จะเตือนให้ทราบว่า 
เขามีระดับน้ำตาลในเลือดตำ   ดังนั้น  คนสูงอายุเหล่านั้น 
ควรเลือกที่จะใช้ระดับน้ำตาลที่มีระดับสูงหน่อย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น