วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

High Blood Pressure May Aid Frail Elderly

8/14/12

Continued 5

Lymphoma : Diagnosis

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า 
เพื่อนของเราเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือด lymphoma ?


ถ้าใครก็ตามมีอาการบวม  หรือ  มีอาการตามที่บ่งบอกมาก่อนหน้านี้
แพทย์ผู้เกี่ยวข้อง  จะทำการซักประวัติเกี่ยวกับ อาการ...เกิดเมื่อใด,
ประวัติเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บทั้งอดีต และ ปัจจุบัน ประวัติการรับทานยาต่าง ๆ
ประวัติสุขภาพ ประวัติครอบครัว และ อุปนิสัย รวมถึงพฤติกรรม.


เมื่อซักประวัติเสร็จ...คุณหมอก็จะทำการตรวจร่างกายต่อไป
หลังการตรวจร่างกาย  และ ซักประวัติเกี่ยวกับความเจ็บป่วย
ถ้าแพทย์เกิดความสงสัยว่า  คนไข้อาจเป็นโรค lymphoma  เมื่อใด  
แพทย์เขาจะทำการตรวจอีกหลายอย่าง 
ซึ่งสามารถพิสูจน์ว่า  คนไข้เป็นโรคอะไร ?

ในบางกรณี  ในระหว่างการตรวจหาโรคนั้น 
อาจมีการส่งต่อคนไข้ไปยังผู้เชี่ยวชาญทางโรคเลือดเลย
(Hematologist/oncologist)



การตรวจเลือด (Blood tests)

·   แพทย์สั่งตรวจเลือด  เพื่อดูการทำงานของเม็ดเลือดทั้งหลาย, และ อวัยวะที่สำคัญ ๆ 
เช่น  ไต และ ตับ

·         ตรวจสารเคมีบางอย่าง  หรือ เอ็นไซม์บางชนิด 
เช่น  lactate dehydrogenase (LDH)........  ในรายที่เราสงสัยว่าเป็นโรค  NHL
(non-Hodgkin’s  Lymphoma (NHL) ที่มีค่า LDH สูง  อาจเป็นตัวบ่งบอกให้เราได้รู้ว่า 
คนไข้รายนั้น  เป็นมะเร็งที่มีความรุนแรงสูง

·         นอกเหนือจากนั้น  อาจมีการตรวจอย่างอื่น  สำหรับ subtypes ของ lymphoma

  
การตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ (Biopsy)


ถ้าปรากฏว่า  คนไข้มีก้อน  หรืออาการบวมปรากฏให้เห็น...
แพทย์จะสั่งให้มีการตัดชิ้นเนื้อเอาไปทำการตรวจโดยพยาธิแพทย์  ซึ่งเราเรียกว่า biopsy
ซึ่งมีวิธีการมากมายให้ทำเช่นนั้นได้


·         ถ้าเราสามารถมองเห็นก้อน  หรือสามารถคลำได้  และง่ายต่อการทำ biopsy
เราก็สามารถใช้เข็มทำการเจาะเอาชิ้นเนื้อมาทำการตรวจได้ 
เราเรียกว่า  Core needle biopsy  ซึง  สามารถกระทำภายใต้การฉีดยาชาเฉพาะที่ได้


·         ในบางราย  เนื่องจากการใช้เข็มเจาtเอาชิ้นเนื้อมาตรวจ  อาจไม่ได้เนื้อที่ดีเพื่อการตรวจ 
ในกรณีดังกล่าว  แพทย์อาจตัดสินใจเอาต่อมน้ำเหลืองทั้งก้อนออกมาตรวจ 
เราเรียกวิธีการนี้ว่า  surgical biopsy

การตัดชิ้นเนื้อดังกล่าวมาทำการตรวจ  อาจกระทำภายใต้ยาชา  หรือ ดมยาสลบ


·         ถ้าก้อนเนื้องอกไม่อยู่ใต้ผิวหนัง  แต่อยู่ลึกลงไปในร่างกาย 
การลงไปเอาเนื้อมาตรวจเริ่มจะยุ่งยากขึ้น  ในกรณีดังกล่าว  อาจจำเป็นต้องใช้กล้องส่องเข้า
ไปในช่องท้อง(labparoscopy)   เครื่องมือที่ใช้เรียก laparoscope 
เป็นวิธีการที่ใช้สายติดกล้องผ่านแผลเล็กที่หน้าท้อง 
ซึ่งสามารถมองเห็นภาพต่าง ๆ ภายในช่องท้อง  ปรากฏทางจอ video monitor ได้

จากนั้น  แพทย์สามารถใช้เครื่องมือที่อยู่ส่วนปลายของเครื่อง laparoscope 
ตัดเอาชิ้นเนื้อไปทำการตรวจได้


·         แพทย์ทางพยาธิวิทยา  คือแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยโรคด้วย
การดูเซลล์  และเนื้อเยื่อด้วยกล้องจุลทรรศน์  ซึ่งแพทย์...เขาจะเป็นคนรายงานให้ทราบว่า 
ผลเนื้อเยื่อที่ได้นั้น  เป็น lymphoma  หรือไม่

  
การตรวจด้วยภาพ (Imaging studies)


ในกรณีที่ไม่มีก้อนปรากฏให้เห็น  หรือคลำได้...
ถ้าคนไข้มีอาการ  แพทย์อาจต้องทำการสั่งตรวจเพื่อพิสูจน์ว่า  มีก้อนหรือไม่
ถ้าผลปรากฏว่า  มีก้อนจริง  จากนั้นเขาจะมาพิจารณาว่า 
จะตัดเอาชิ้นเนื้อมาตรวจอย่างไร ?


การตรวจด้วยภาพที่ถูกนำมาใช้ได้แก่:


·      X-rays:  บางส่วนของร่างกาย  สามารถตรวจด้วยภาพเอกซเรย์ง่าย  
บางครั้ง  สามารถตรวจพบ lymphoma ได้


·      CT scans: เป็นตรวจด้วยภาพสามมิติ  มีความละเอียด 
และอาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองที่มีขนาดใหญ่  และ  ก้อนต่างๆ  ภายในร่างกายได้


·      MRI:  จะมีลักษณะเหมือนกับ CT scans,  MRI  จะให้ภาพสามมิติ  ที่มีรายละเอียดมาก
มันสามารถให้รายละเอียดได้มากกว่า CT scans  ในบางส่วนของร่างกาย 
โดยเฉพาะที่สมอง  และ ไขประสาทสันหลัง


·      Lymphangiogram:  การตรวจวิธีนี้  จะได้ภาพเกี่ยวกับระยะน้ำเหลือง
โดยการติดตามดูสารทึกแสง  ที่เคลื่อนไปตามระบบ 
ซึ่งต่อมาภายหลัง  ถูกแทนที่ด้วย CT scans, MRI  หรือ  PET (ดูข้อความถัดไป)


·      Gallium scan:  มะเร็งเม็ดเลือด lymphoma  มีแนวโน้มที่จะจับเอาสาร  ชื่อ gallium
ถูกฉีดเข้าไปในร่างกาย  สำหรับการตรวจชนิดนี้  เพียงแต่ฉีดสาร gallium
ซึ่งเป็นสารกัมมันตภาพรังสีเข้าสู่ร่างกาย  สารดังกล่าจะร่วมตัวอยู่ในบริเวณที่เป็น lymphoma


·      Positron-emission tomographic  (PET) scans  เป็นอีกวิธีหนึ่ง  ที่นำมาใช้ในการตรวจหา
มะเร็ง lymphoma  ซึ่งกระทำโดยการฉีดสารกัมมันตภาพรังสีเข้าสู่ร่างกาย 
แล้วติดตามดู PET scans  ตำแหน่งที่มีสารกัมมันตภาพรังสีรวมตัวอยู่  จะบ่งบอกให้ทราบว่า 
ตำแหน่งนั้น ๆ  มีกระบวนการเผาผลาญสูง (increased metabolic  Activity) 
ซึ่งปรากฏให้เห็นทาง PET scans  โดยบอกให้รู้ว่า น่าจะเป็นมะเร็ง



การตรวจไขกระดูก (Bone marrow examination)


ส่วนใหญ่แล้ว  การตรวจไขกระดูกจะมีความจำเป็นในประเด็นว่า 
ไขกระดูกถูกกระทบโดยมะเร็งเม็ดเลือด lymphoma 
ซึ่งกระทำโดยการเจาะเอาไขกระดูกมาทำการตรวจ

ไขกระดูกสามารถเอามาจากกระดูกบริเวฃรสะโพก ( iliac crest) 
ให้แพทย์ทางพยาธิวิทยา  นำไปตรวจภายใต้กล้องจุลทรรศน์ 
ภายในไขกระดูกจะมีเซลล์ที่ผิดปกติของ B หรือ T cells  เป็นการยืนยันว่า 
คนไข้รายนั้น  เป็นโรค lymphoma


ในการตัดชิ้นเนื้อไขกระดูกจากกระดูก  เป็นวิธีที่ทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บ 
ซึ่งจำเป็นต้องกระทำภายในโรงพยาบาล  คนไข้ส่วนใหญ่จะต้องได้รับยาลด
ความเจ็บปวดก่อนทำการตัดเอาชิ้นเนื้อไปตรวจ



การตรวจอย่างอื่น ๆ (Other tests)

·         Lumbar puncture: การตรวจชนิดนี้  บางทีเราเรียก spinal tap  เป็นการตรวจ
เอาน้ำจากไขสันหลังมาทำการตรวจ  ในกรณีที่มะเร็งเข้าไปเกี่ยวข้องกับระบบประสาท
ส่วนกลางเมื่อใด  น้ำที่เจากไขสันหลัง  จะพบเซลล์ของ lymphoma ได้


·         Organ function tests:  เป็นการตรวจก่อนให้ที่เริ่มให้การรักษาโรค.เพื่อให้แน่ใจว่า 
สภาพของคนไข้แข็งแรงดีพอที่จะผ่านการรักษา  สามารถทนต่อผลข้างเคียงของยา
เช่น  การตรวจดูการทำงานของหัวใจ echocardiogram  และ
การตรวจดูการทำงานของปอ(pulmonary test)



อ่านต่อ  กด  6


Continued  6 Lymphoma: Staging



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น