8/20/12
อาการแสดง และ การตรวจ
ประวัติของกล้ามเนื้ออ่อนแรง และ อัมพาติ
อาจเป็นอาการแสดงของ Guillain-Barre syndrome
โดยเฉพาะที่พึ่งผ่านความไม่สาบายมาไม่นาน
การตรวจร่างกาย อาจพบกล้ามเนื้ออ่อนแรง และ ปัญหาการทำงานของร่าง
กาย ที่ไม่สามารถควบคุมได้ (autonomic) เช่น ความดันโลหิต
และ การเต้นของหัวใจการตรวจดูการตอบสนองของเอ็น และกล้ามเนื้อ (elflexes)
เช่น ของข้อเท้า (ankle jerk) และ ข้อเข่า (knee jerk) ลดลง
หรือหายไปอาจมีอาการแสดงของการหายใจลดลง เป็นผลมาจาก
การอัมพาติของกล้ามเนื้อหายใจ
การตรวจต่อไปนี้อาจจำเป็นต้องกระทำ:
· เจาะน้ำไขสันหลัง (spinal tap)
· ตรวจคลื่นสมอง (ECG)
· ตรวจคลื่นกระแสไฟฟ้าของกล้ามเนื้อ (EMG)
· ตรวจความเร็วของคลื่นประสาท (nerve conduction velocity test)
· ตรวจการทำงานของปอด (Pulmonary function tests)
การรักษา (Treatment)
ในปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีการรักษาให้โรค Guillan-Barre syndrome หายได้
อย่างไรก็ตาม มีการรักษาหลายอย่างที่สามารถช่วยลดอาการต่าง ๆ
รักษาภาวะแทรกซ้อน, และ ช่วยทำให้หายเร็วขึ้น
ถ้าอาการุนแรง คนไข้อาจต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล
ซึ่งอาจจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือการหายใจ
ในระยะเริ่มแรกของการเกิดโรค...
การรักษาได้แก่การกำจัดเอาสารโปรตีน ที่เป็นภูมิต้านทานออก หรือ
สกัดกั้นไม่ให้มันทำอันตรายต่อเซลล์ประสาท
อาจลดความรุนแรง และ ระยะเวลาของการเกิดโรค Guillain-Barre syndrome
มีวิธีการอย่างหนึ่ง เรียก plasmapheresis…
เป็นวิธีการกำจัดเอา “antibodies” จากเลือดออกทิ้งไป
เป็นวิธีการเอาเลือดจากคนไข้ โดยเอาเลือดจากเส้นเลลือดที่แขน
และปั้มผ่านเข้าสู่เครื่อง....เพื่อให้เครื่องมืดกำจัดเอา antibodies ออกทิ้งไป
จากนั้น เลือดที่ดีจะไหลกลับเข้าสู่ร่างกายอีกที
วิธีที่สอง คือการสกัดกั้นการทานของ antibodies ด้วยการใช้ immunoglobulin
ที่มีขนาดสูงหน่อย (high-dose) เรียก immunoglobulin therapy
เมื่อเราฉีดสาร immunoglobulin เข้าสู่ร่างกายแล้ว
มันจะสกัดกั้น antibodies ไม่ให้เกิดการอักเสบขึ้นได้
การรักษาอย่างอื่น ๆ จะมุ่งตรงไปที่การป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน
เช่น:
· Blood thinners อาจนำมาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน
· ถ้ากล้ามเนื้อกระบังลมเกิดอ่อนแอ อาจจำเป็นต้องช่วยการหายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจ
· อาการปวดที่เกิดขึ้น อาจจำเป็นต้องให้ยาลดการอักเสสบ NSAIDs หรือ
ยาแก้ปวด (narcotics)
· เพื่อป้องกันไม่สำลักอาหาร ต้องปรับตำแหน่งของร่างกายให้เหมาะสม
หรือ อาจจำเป็นต้องใส่สายนำอาหาร (feeding tube) ในรายทีไม่สามารถกลืนอาหารได้
การพยากรณ์โรค (Expectations)
การฟื้นตัวจากโรคต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์, เป็นเดือน ๆ หรือ เป็นปี ๆ
คนไข้ส่วนใหญ่จะมีชีวิตรอด และฟื้นตัวได้เป็นปกติ
จากรายงานของ National Institute of Neurological Disorders and Stroke พบว่า
ภายในระยะเวลาสามปี จะมีคนไข้ที่มีอาการอ่อนแรง
ประมาณ 30 % และ มีบางรายที่ยังมีอาการอ่อนแรงไปตลอดชีวิต
ในรายทีอาการหายไปในระยะเวลา 3 อาทิตย์หลังเกิดอาการ
คนไข้กลุ่มนี้มีแนวโน้มดีมาก
ภาวะแทรกซ้อน (Complications)
· หายใจลำบาก
· ข้อติดแข็ง (contractures of joints or other deformity)
· เกิดเลือดในเส้นเลือดดำ (deep vein thrombosis)
· เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบ
· ความดันต่ำ หรือ ความดันโลหิตไม่เสถียร ควบคุมละบาก
· อัมพาติ ซึ่งอาจถาวร
· เป็นปอดอักเสบ (pneumonia)
· มีแผลที่ผิวหนัง (ulcers)
· มีน้ำ หรือ อาหารไหลเข้าปอด (aspiration)
ท่านต้องพบแพทย์เมื่อ ท่านมีอาการต่อไปนี้
· ไม่สามารถหายใจลึกได้
· ความรู้สึกลดน้อยลง ทำให้เกิดอาการ
Ø หายใจลำบาก
Ø กลืนลำบาก
Ø เป็นลม
Ø เคลื่อนไหวไม่ได
http://www.ncbi.nlm.nih.gov
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น