8/24/12
ขึ้นชื่อว่า “โรค” แล้ว มันไม่เคยปรานีใคร
ผู้เขียนได้มีโอกาสเจอเพื่อน เป็นผู้เชียวชาญโรคข้อกระดูก..
แต่ต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของโรคไขข้อเสียเอง ต้องรับทานยาทุกวัน
โรคไขข้อที่ว่านั้น คือ Reactive Arthritis หรือ Reiter’s syndrome
ผู้เขียนได้มีโอกาสเจอเพื่อน เป็นผู้เชียวชาญโรคข้อกระดูก..
แต่ต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของโรคไขข้อเสียเอง ต้องรับทานยาทุกวัน
โรคไขข้อที่ว่านั้น คือ Reactive Arthritis หรือ Reiter’s syndrome
What Is It?
เป็นโรคที่ไม่มีชื่อเป็นภาษาไทย ขออนุญาตใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษ...
Reactive arthritis เป็นโรคที่พบได้น้อย โดยมีการอักเสบของข้อต่างๆ
นอกจากนั้น มีคนไข้จำนวนไม่น้อย มีอาการอย่างอื่นด้วย
เช่น การอักเสบของทางเดินปัสสาวะ และ การอักเสบตา
และก่อนเกิดโรคดังกล่าว จะถูกกระต้นด้วยการอักเสบ
โดยเฉพาะเป็นการอักสบที่เกิดจากเชื้อโรค ที่ถ่าย ทอดทางเพศสัมพันธ์
หรือ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด จากกระเพาะลำไส้
Reactive arthritis เป็นโรคที่พบได้น้อย โดยมีการอักเสบของข้อต่างๆ
นอกจากนั้น มีคนไข้จำนวนไม่น้อย มีอาการอย่างอื่นด้วย
เช่น การอักเสบของทางเดินปัสสาวะ และ การอักเสบตา
และก่อนเกิดโรคดังกล่าว จะถูกกระต้นด้วยการอักเสบ
โดยเฉพาะเป็นการอักสบที่เกิดจากเชื้อโรค ที่ถ่าย ทอดทางเพศสัมพันธ์
หรือ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด จากกระเพาะลำไส้
การอักเสบติดเชื้อที่พบบ่อยที่สุด ทีเกิดจากเพศสัมพันธ์ (STD) คือ เชื้อ chlamedia
ซึ่งพวกเราทราบในชื่อ "หนองในเทียม" นั้นเอง
นอกจากนั้น มันยังอาจเกิดจากการอักเสบของกระเพาะลำไส้จากเชื้ออีกหลายตัว
เช่น salmonella, shigella, campylobacter หรือ Yersinia....
ซึ่งพวกเราทราบในชื่อ "หนองในเทียม" นั้นเอง
นอกจากนั้น มันยังอาจเกิดจากการอักเสบของกระเพาะลำไส้จากเชื้ออีกหลายตัว
เช่น salmonella, shigella, campylobacter หรือ Yersinia....
การอักเสบเหล่านี้ สามารถทำให้เกิดอาการ ท้องร่วง และอาเจียน
เชื้อโรคเหล่านี้ จะปนเปื้อนในน้ำ และอาหาร และ ทำให้คนเกิดการอักเสบ
ของลำไส้ได้บ่อยที่สุด แต่ โรค reactive arthritis จะพบได้ไม่บ่อย
ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเชื่อว่า....
คนที่เกิดเป็นโรค reactive arthritis เป็นเพราะเขาคนนั้น มีลักษณะทางพันธุกรรมบางอย่าง
ผิดไปจากคนอื่นเขา โดยมีสิ่งสนับสนุน ความคิดเห็นดังกล่าว
โดยพบ พันธุกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค คือ HLA-B27 ถึง 50 %
เมื่อเทียบกับคนทั่วไป มีเพียง 8 % เท่านั้นเอง
คนที่เกิดเป็นโรค reactive arthritis เป็นเพราะเขาคนนั้น มีลักษณะทางพันธุกรรมบางอย่าง
ผิดไปจากคนอื่นเขา โดยมีสิ่งสนับสนุน ความคิดเห็นดังกล่าว
โดยพบ พันธุกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค คือ HLA-B27 ถึง 50 %
เมื่อเทียบกับคนทั่วไป มีเพียง 8 % เท่านั้นเอง
Reactive arthritis ถูกคิดว่า เป็นความผิดปกติของระบบภูมิต้านทาน
ซึ่งหมายความว่า ระบบภูมต้านทานเข้าใจผิดว่า เนื้อเยื่อของตนเองเป็นสิ่งแปลกปลอม
หรือศัตรู...จึงลงมือทำลายตนเองไป เป็นเหตุให้เกิดโรคในที่สุด
ซึ่งหมายความว่า ระบบภูมต้านทานเข้าใจผิดว่า เนื้อเยื่อของตนเองเป็นสิ่งแปลกปลอม
หรือศัตรู...จึงลงมือทำลายตนเองไป เป็นเหตุให้เกิดโรคในที่สุด
ในกรณีของ Reactive arthritis ระบบภูมิต้านทานกระโดดเข้าปฏิบัติการโจมตี
โดยเป็นผลจากการกระตุ้นของการอักเสบ แต่ มันยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ทั้ง ๆ ที่การอักเสบที่เกิดในร่างกายจะหายไปแล้วก็ตามที
โดยเป็นผลจากการกระตุ้นของการอักเสบ แต่ มันยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ทั้ง ๆ ที่การอักเสบที่เกิดในร่างกายจะหายไปแล้วก็ตามที
ลักษณะของ reactive arthritis ทีเกิดขึ้น...
จะประกอบด้วย ข้ออักเสบ, ตาอักเสบ (conjunctivitis หรือ uveitis)
และ ท่อปัสสาวะ เกิดการอักเสบ (urethrtis)
อย่างไรก็ตาม มีคนไข้จำนวนไม่น้อย จะมีอาการเพียงอย่างเดียว หรือ สองอย่างเท่านั้น
Reactive arthritis พบบ่อยใสคนที่มอายุระหว่าง 20 – 40
มีความชุกของโรคเพียง 0.03 % (30 ราย ในคน 100,000)
อาการ (Symptoms)
อาการของโรค reactive arthritis...
จะปรากฏภายในสองสามอาทิตย์หลังจากเกิดหนองใน หรือ อาการท้องล่วงจากลำไส้อักเสบ
คนไข้จะมีอาการเหนื่อยอ่อน, และมีไข้เล็กน้อย หรือบางครั้ง อาจมีไข้สูงได้, เหนื่อยเพลีย, น้ำหนักลด
อาการอย่างอื่น ที่เกิดในระยะแรก ๆ ได้แก่ อาการปวดกล้ามเนื้อ, ข้อแข็ง(joint stiffness),
ปวดเอว และมีอาการปวดร้าวไปยังสะโพก หรือ ต้นขา
อาการปวดหลังส่วนล่างจะมีอาการเลวลงเมื่อนั่งนิ่ง หรือ นอนนิ่ง ๆ และ
อาการจะดีขึ้นเมื่อคนไข้มีการเคลื่อนไหวไปรอบ ๆ
อาการของไขข้ออักเสบ (arthritis) จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
และ จะเกิดขึ้นกับข้อเดียว หรือหลายข้อ โดยเฉพาะข้อเข่า, ข้อเท้า, เท้า, และ ข้อมือ
นอกจากนั้น คนไข้มักจะมีอาการปวดที่ด้านหลังของข้อเท้า, และกดเจ็บที่บริเวณด้านต่ำสุด (bottom) ของกระดูกซ่นเท้า และ มีการอักเสบที่บริเวณจุดยึดของเอ็นร้อยหวาย
อากาต่าง ๆ จมีได้แตกต่างกันตามตำแหน่งของรางกาย ที่เกิดมีการอักเสบ ดังต่อไปนี้:
จะประกอบด้วย ข้ออักเสบ, ตาอักเสบ (conjunctivitis หรือ uveitis)
และ ท่อปัสสาวะ เกิดการอักเสบ (urethrtis)
อย่างไรก็ตาม มีคนไข้จำนวนไม่น้อย จะมีอาการเพียงอย่างเดียว หรือ สองอย่างเท่านั้น
Reactive arthritis พบบ่อยใสคนที่มอายุระหว่าง 20 – 40
มีความชุกของโรคเพียง 0.03 % (30 ราย ในคน 100,000)
อาการ (Symptoms)
อาการของโรค reactive arthritis...
จะปรากฏภายในสองสามอาทิตย์หลังจากเกิดหนองใน หรือ อาการท้องล่วงจากลำไส้อักเสบ
คนไข้จะมีอาการเหนื่อยอ่อน, และมีไข้เล็กน้อย หรือบางครั้ง อาจมีไข้สูงได้, เหนื่อยเพลีย, น้ำหนักลด
อาการอย่างอื่น ที่เกิดในระยะแรก ๆ ได้แก่ อาการปวดกล้ามเนื้อ, ข้อแข็ง(joint stiffness),
ปวดเอว และมีอาการปวดร้าวไปยังสะโพก หรือ ต้นขา
อาการปวดหลังส่วนล่างจะมีอาการเลวลงเมื่อนั่งนิ่ง หรือ นอนนิ่ง ๆ และ
อาการจะดีขึ้นเมื่อคนไข้มีการเคลื่อนไหวไปรอบ ๆ
อาการของไขข้ออักเสบ (arthritis) จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
และ จะเกิดขึ้นกับข้อเดียว หรือหลายข้อ โดยเฉพาะข้อเข่า, ข้อเท้า, เท้า, และ ข้อมือ
นอกจากนั้น คนไข้มักจะมีอาการปวดที่ด้านหลังของข้อเท้า, และกดเจ็บที่บริเวณด้านต่ำสุด (bottom) ของกระดูกซ่นเท้า และ มีการอักเสบที่บริเวณจุดยึดของเอ็นร้อยหวาย
อากาต่าง ๆ จมีได้แตกต่างกันตามตำแหน่งของรางกาย ที่เกิดมีการอักเสบ ดังต่อไปนี้:
v Arthritis- มีอาการปวดข้อ; ข้อบวม; การเคลื่อนไหวติดขัด โดยเฉพาะที่
บริเวณข้อเท้า, หัวเข่า , เท้า และ
ที่เป็นน้อยที่สุด คือข้อมือ, นิ้วมือ, และข้ออื่น; ปวดเอ็น (tendon pain);
ปวดหลัง; บวมที่นิ้วมือ และ นิ้วเท้า
v Conjuctivitis- มีอาการตาแดง ห่างจากม่านตา พร้อมกับมีขี้ตาเหนียวใน
ตอนเช้า ซึ่งส่วนมากจะเกิดขึ้นในระยะสั้น ๆ ไม่รุนแรงนัก
v Uveitis- ตาจะแดงตรงบริเวณใกล้ม่านตา (iris) มีอาการปวดตา
เมื่อสัมผัสกับแสง, สายตาพล่ามัว
v Urethritis- ปัสสาวะแสบ หนองจากอวัยวะเพศ (penis) หรือ ช่องคลอด
v Dermatitis- มีแผลในปาก ซึ่งอาจมีอาการปวด หรือไม่ปวดได้ มีผิวหนัง
ลอกเป็นผื่นที่บริเวณซ่นเท้า, มีการอักเสบที่ปลายอวัยวะเพศ
อาการอย่างอื่น ๆ ซึ่งมีน้อยได้แก่ การอักเสบของต่อมลูกหมาก (prostatitis),
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (cystitis), และอักเสบของหัวหุ้มหัวใจ (pericarditis)
และ มีลิ้นหัวใจรั่ว
อ่านต่อ กด 2: Reactive Arthritis: Diagnosis
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น