Continued
การวินิจฉัย (Diagnosis)
แพทย์... จะถามประวัติของสมาชิกในครอบครัวของท่านว่า มีใครเป็นโรค
เกี่ยวกับโรคหัวใจ, สมองถูกทำลาย (stroke), ปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด,
และ ประวัติเกี่ยวกับระดับไขมันในเลือดสูง นอกจากนั้น
เขาจะถามประวัติการสูบบุหรี่, ดื่มแอลกอฮอลล์, การออกกำลังกาย,
ตลอดรวมถึงอาการของเส้นเลือดแดงตีบแคบ (artherosclerosis) จากท่าน
เกี่ยวกับโรคหัวใจ, สมองถูกทำลาย (stroke), ปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด,
และ ประวัติเกี่ยวกับระดับไขมันในเลือดสูง นอกจากนั้น
เขาจะถามประวัติการสูบบุหรี่, ดื่มแอลกอฮอลล์, การออกกำลังกาย,
ตลอดรวมถึงอาการของเส้นเลือดแดงตีบแคบ (artherosclerosis) จากท่าน
แพทย์เขาจะตรวจสอบประวัติการเป็นโรคของท่าน, อาการของโรค
และยาที่ท่านรับทาน เพื่อรักษาโรคประจำตัวของท่าน ?
ถ้าท่านไม่มีอาการของโรคประจำตัว ที่สัมพันกับเส้นเลือดแดงตีบแคบ...
แพทย์จะทำการตรวจต่อไป เพื่อหาอาการแสดงของการไหลเวียนของเลือดที่ผิดปกติ
เช่น ฟังเสียงของเลือดที่ไหลผ่านเส้นเลือดแคบ ๆ ตรงบริเวณคอ, ช่องท้อง, และ ที่อื่นๆ
จับชีพจรเบาที่บริเวณขาหนีบ, ขา, และ เท้า, ดูสีของผิวหนังว่า ซีด
หรือเขียวคล้ำที่บริเวณขา หรือไม่ ซึ่งต่างเป็นอาการแสดงของเส้นเลือดตีบตัน
แพทย์จะทำการตรวจต่อไป เพื่อหาอาการแสดงของการไหลเวียนของเลือดที่ผิดปกติ
เช่น ฟังเสียงของเลือดที่ไหลผ่านเส้นเลือดแคบ ๆ ตรงบริเวณคอ, ช่องท้อง, และ ที่อื่นๆ
จับชีพจรเบาที่บริเวณขาหนีบ, ขา, และ เท้า, ดูสีของผิวหนังว่า ซีด
หรือเขียวคล้ำที่บริเวณขา หรือไม่ ซึ่งต่างเป็นอาการแสดงของเส้นเลือดตีบตัน
จากนั้น เขาจะทำการสั่งให้ตรวจเลือดดู total, LDL, และ HDL cholesterol,
Triglyceride และ fastig blod sugar, ตรวจคลื่นหัวใจ electrocardiogram (EKG)
อย่างไกร็ตาม แพทย์อาจสั่งให้ทำการตรวจ EKG ในขณะที่ออกกำลังกาย
เพราะการตรวจเช่นนั้น สามารถตรวจพบความผิดปกติของหัวใจได้
Triglyceride และ fastig blod sugar, ตรวจคลื่นหัวใจ electrocardiogram (EKG)
อย่างไกร็ตาม แพทย์อาจสั่งให้ทำการตรวจ EKG ในขณะที่ออกกำลังกาย
เพราะการตรวจเช่นนั้น สามารถตรวจพบความผิดปกติของหัวใจได้
นอกเหนือจากนั้น จะมีการตรวจอย่างอื่น
อาจจำเป็นสำหรบการตรวจวัดการไหลเวียนของเลือดสู่หัวใจ, สมอง, และ ขาได้
สิ่งที่คาดหวังจากการเกิดภาวะเส้นตีบแข็ง (Expected Duration)
โรคเสนเลือดตีบแคบ เป็นโรคที่เรือรัง ซึ่งเกิดมาเป็นเวลานานแล้ว
และ มีแนวโน้มที่จะเลวลงไปเรื่อย ๆ
โรคเสนเลือดตีบแคบ เป็นโรคที่เรือรัง ซึ่งเกิดมาเป็นเวลานานแล้ว
และ มีแนวโน้มที่จะเลวลงไปเรื่อย ๆ
ป้องกัน (Prevention)
ท่านสามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคเส้นเลือดตีบแคบ (atherosclerosis) ได้
ด้วยการเปลี่ยนปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคของท่าน
ท่านควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อสนับสนุนให้เกิดการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคเส้นเลือดตีบแข็ง (artherosclerosis)
ซึ่งท่านสามารถกระทำได้โดย:
o หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
o รักษา และคงสภาพของน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่าให้อ้วนโดยเฉพาะ
ให้มุ่งความสนใจไปที่บริเวณรอบเอว เพราะมันจะสัมพันธ์กับระดับของไขมัน
เช่น HDL cholesterol ต่ำ และ Triglyceride สูง
o รับทานอาการที่ให้สุขภาพ เช่น ผัก, ผลไม, พวกเมล็ด และ ธัญญพืช
หลีกเลี่ยงรับประทานไขมันอิ่มตัว และ ไขมันทรานซ์
ให้ใช้ monosaturated (olive) และ polysaturated (suflower,peanut)oil ปรุงอาหาร
ส่วนพวกโปรตีน ให้เน้นไปที่พวกปลา และ อาหารประเภทถั่ว เป็นต้น
o ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ, ควบคุมระดับความดันโลหิต, อาจได้รับยาลดความดัน
ถ้าหากทานไม่เคยวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันมาก่อน
ท่านควรตรวจเช็คอย่างน้อยทุกปี
o ถ้าท่านมีโรคเบาหวาน นอกจากควบคุมระดับน้ำกตาลแล้ว ท่านทำงานหนักขึ้น
เพื่อควบคุมน้ำหนักตัว, ออกกำลังกายให้มากขึ้น, ลดระดับไขมันcholesterol
และ triglycerid ลง, และ ลดความดันโลหิตให้ต่ำกว่า 130/85
o ถ้าท่านไม่เป็นโรคเบาหวาน หากท่านมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน
เช่น น้ำหนักเพิ่ม, ความดันโลหิตสูง และ มีระดับ cholestero สูง
ท่านควรตรวจดูระดับน้ำตาลในเลือดทุกสอง-สามปี โดยเริ่มเมื่อท่านอายุ 45 ปี
o ปรึกษาแพทย์ เพื่อควบคุมระดับ cholesterol ให้อยู่ในระดับปกติ
หากท่านไม่มีปัญหาไขมัน cholesterol มาก่อน ท่านควรตรวจดูระดับ cholesterol
ทุก 5 ปี โดยเริ่มเมื่ออายุได้ 20
ด้วยการเปลี่ยนปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคของท่าน
ท่านควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อสนับสนุนให้เกิดการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคเส้นเลือดตีบแข็ง (artherosclerosis)
ซึ่งท่านสามารถกระทำได้โดย:
o หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
o รักษา และคงสภาพของน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่าให้อ้วนโดยเฉพาะ
ให้มุ่งความสนใจไปที่บริเวณรอบเอว เพราะมันจะสัมพันธ์กับระดับของไขมัน
เช่น HDL cholesterol ต่ำ และ Triglyceride สูง
o รับทานอาการที่ให้สุขภาพ เช่น ผัก, ผลไม, พวกเมล็ด และ ธัญญพืช
หลีกเลี่ยงรับประทานไขมันอิ่มตัว และ ไขมันทรานซ์
ให้ใช้ monosaturated (olive) และ polysaturated (suflower,peanut)oil ปรุงอาหาร
ส่วนพวกโปรตีน ให้เน้นไปที่พวกปลา และ อาหารประเภทถั่ว เป็นต้น
o ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ, ควบคุมระดับความดันโลหิต, อาจได้รับยาลดความดัน
ถ้าหากทานไม่เคยวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันมาก่อน
ท่านควรตรวจเช็คอย่างน้อยทุกปี
o ถ้าท่านมีโรคเบาหวาน นอกจากควบคุมระดับน้ำกตาลแล้ว ท่านทำงานหนักขึ้น
เพื่อควบคุมน้ำหนักตัว, ออกกำลังกายให้มากขึ้น, ลดระดับไขมันcholesterol
และ triglycerid ลง, และ ลดความดันโลหิตให้ต่ำกว่า 130/85
o ถ้าท่านไม่เป็นโรคเบาหวาน หากท่านมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน
เช่น น้ำหนักเพิ่ม, ความดันโลหิตสูง และ มีระดับ cholestero สูง
ท่านควรตรวจดูระดับน้ำตาลในเลือดทุกสอง-สามปี โดยเริ่มเมื่อท่านอายุ 45 ปี
o ปรึกษาแพทย์ เพื่อควบคุมระดับ cholesterol ให้อยู่ในระดับปกติ
หากท่านไม่มีปัญหาไขมัน cholesterol มาก่อน ท่านควรตรวจดูระดับ cholesterol
ทุก 5 ปี โดยเริ่มเมื่ออายุได้ 20
การรักษา (Treatment)
เมื่อเส้นเลือดแดงของท่านเกิดตีบแข็งขึ้น...
จะไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ แต่เราสามารถชะลอ หรือยุติอาการของโรคลงได้
โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การป้องกันไม่ให้เส้นเลือดตีบแคบ
การที่จะทำเช่นนั้นได้ เราจำเป็นต้องปฏิบัติตามพฤติกรรม
ที่ทำให้สุขภาพดีขึ้นตามที่ได้กล่าวมา...
จะไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ แต่เราสามารถชะลอ หรือยุติอาการของโรคลงได้
โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การป้องกันไม่ให้เส้นเลือดตีบแคบ
การที่จะทำเช่นนั้นได้ เราจำเป็นต้องปฏิบัติตามพฤติกรรม
ที่ทำให้สุขภาพดีขึ้นตามที่ได้กล่าวมา...
ถ้าระดับไขมันในเลือดของท่านสูง และท่านไม่สามารถควบคุมได้ด้วยการ
ควบคุมอาหาร และ การออกกำลังกาย จำเป็นต้องใช้ยา ซึ่งปัจจุบัน
เรามียารักษาอยู่ด้วยกัน 5 กลุ่มด้วยกัน:
· HMG-CoA reductase inhibitors: ได้แก่ lovastatin (Mevacor), simvastatin (Zocor), pravastatin (Pravachol), fluvastatin (Lescol), rosuvastatin (Crestor) and atorvastatin (Lipitor). ยาเหล่านี้ จะทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ชื่อ HHG-CoA reductase
ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ ที่ทำหน้าที่ควบคุมการสร้างไขมัน cholesterol ภายในตับ
· Bile acid-binding resins: ได้แก่ cholestyramine (Questran) และ
colestipol (Colestid)
ควบคุมอาหาร และ การออกกำลังกาย จำเป็นต้องใช้ยา ซึ่งปัจจุบัน
เรามียารักษาอยู่ด้วยกัน 5 กลุ่มด้วยกัน:
· HMG-CoA reductase inhibitors: ได้แก่ lovastatin (Mevacor), simvastatin (Zocor), pravastatin (Pravachol), fluvastatin (Lescol), rosuvastatin (Crestor) and atorvastatin (Lipitor). ยาเหล่านี้ จะทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ชื่อ HHG-CoA reductase
ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ ที่ทำหน้าที่ควบคุมการสร้างไขมัน cholesterol ภายในตับ
· Bile acid-binding resins: ได้แก่ cholestyramine (Questran) และ
colestipol (Colestid)
· Niacin
· Fibrates: ที่มีให้ใช้ได้แก่ including gemfibrozil (Lopid) and fenofibrate (Tricor)
· Cholesterol-absorption inhibitors: เป็นยาที่ผลิตอออกมาใหม่สุด
อยู่ในกลุ่มลดมัน cholesterol ที่มีใช้ได้แก่ Ezetimibe (Zetia)
ซึ่ง เป็นยาเพียงตัวเดียวที่มีใช้ในท้องตลาด
· Fibrates: ที่มีให้ใช้ได้แก่ including gemfibrozil (Lopid) and fenofibrate (Tricor)
· Cholesterol-absorption inhibitors: เป็นยาที่ผลิตอออกมาใหม่สุด
อยู่ในกลุ่มลดมัน cholesterol ที่มีใช้ได้แก่ Ezetimibe (Zetia)
ซึ่ง เป็นยาเพียงตัวเดียวที่มีใช้ในท้องตลาด
เมื่อมีอาการของเส้นเลือดตีบแข็งปรากฏขึ้น
และอาการที่เกิด จะสัมพันธ์กับอวัยวะถูกทำลาย
และอาการที่เกิด จะสัมพันธ์กับอวัยวะถูกทำลาย
การรักษา จะขึ้นกับอวัยวะที่ถูกทำลาย:
o Heart: การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ประกอบด้วยการใช้ยา
เพื่อรักษาอาการของเจ็บหน้าอก (nirated,calcium blocker, beta-blockers)
และ ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะ heart attack ด้วยการให้ยา aspirin, beta-blockers;
ทำอาจต้องทำ Balloon angioplasty หรือ coronary artery bypass surgery
o Brain. การรักษาต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะ transient ischemic attack (TIAs)
และ stroke สามารถกระทำได้ด้วยการให้ antiplatelet medications
เช่น aspirin, dipyridamole, clopidogrel (Plavix) และ
ให้ anticoagulant medicatins เช่น warfarin และ heparin
o Abdomen. เมื่อเส้นเลือดแดงที่ไปหล่อเลี้ยงลำไส้เกิดการตีบแคบ
การรักษาอาจกระทำด้วยการทำ balloon angioplastic เหมือนกับการรักษา
โรคหัวใจขาดเลือด หรือ อาจกระทำด้วยการทำ bypass arterial graft
o Legs. การรักษาเส้นเลือดแดงเdbfดการตีบตัน ได้แก่ การหยุดสูบบุหรี,
ออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอ (เช่น การเดิน ), และ ให้ยาต้านการจับตัวของ
เกล็ดเลือเป็นก้อน ซึ่งได้แก่ aspirin
ในรายที่เส้นเลือดมีการตีบตันมาก ๆ
อาจจำเป็นต้องได้รับการทำการ balloon angioplasty (with or without stents)
หรือ ทำ bypass graft
เราควรพบแพทย์เมื่อใด (When To Call a Professional
ท่านอาจมีโรคเส้นเลือดตีบแข็งนานนับหลายปี โดยที่ท่านไม่มีอาการใด ๆ
แต่เมื่อใดทีทานมีอาการของเส้นเลือดตีบแคบ ซึ่งสัมพันธ์กับอาการของท่าน
ท่านต้องติดต่อแพทย์ทันที
ท่านอาจมีโรคเส้นเลือดตีบแข็งนานนับหลายปี โดยที่ท่านไม่มีอาการใด ๆ
แต่เมื่อใดทีทานมีอาการของเส้นเลือดตีบแคบ ซึ่งสัมพันธ์กับอาการของท่าน
ท่านต้องติดต่อแพทย์ทันที
การพยากรณ์โรค (Prognosis)
โรคเส้นเลือดตีบแข็ง จะนำไปสู่การเสียชีวิตได้ในคนไข้ทั้งเพศชาย และ หญิง
เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ทำกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย
อย่างไรก็ตาม คนที่เป็นโรคเส้นเลือดตีบแคบ สามารถมีชีวิตยืนยาว
และมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว โรคดังกล่าว
สามารถป้องกันได้ แม้ว่า โรคจะมีส่วนเกี่ยวข้องทางพันธุกรรมก็ตาม
เราสามารถชะลอการเกิดโรคได้ โดยการทำให้สุขภาพของเราแข็งแรง,
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม, การรับทานอาหารที่เหมาะสม
และการรับทานยาลดระดับไขมัน cholesterol
เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ทำกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย
อย่างไรก็ตาม คนที่เป็นโรคเส้นเลือดตีบแคบ สามารถมีชีวิตยืนยาว
และมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว โรคดังกล่าว
สามารถป้องกันได้ แม้ว่า โรคจะมีส่วนเกี่ยวข้องทางพันธุกรรมก็ตาม
เราสามารถชะลอการเกิดโรคได้ โดยการทำให้สุขภาพของเราแข็งแรง,
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม, การรับทานอาหารที่เหมาะสม
และการรับทานยาลดระดับไขมัน cholesterol
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น