วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Medicines : ยาที่ถูกนำมาใช้ในโรคเบาหวาน


8/18/12

เมื่อคนเล่นกอล์ฟลงเล่นในสนามกอล์ฟ...
เขาจะต้องเรียนรู้อาวุธ (ไม้ตีกอล์ฟ) ของเขาเป็นอย่างดี
ว่าในแต่ละสถานการณ์  เขาควรเลือกใช้ไม้ชิ้นใดดี ?


ส่วนแพทย์  ทีทำหน้าทีดูแลรักษาคนไข้...
เขาจะต้องรู้เรื่องยาทุกตัว  ที่เขานำไปใช้กับคนไข้เป็นอย่างดีเช่นกัน
นอกจากจะเรียนรู้เรื่องยาแต่ละตัวแล้ว...
เขาต้องเรียนรู้อีกว่า  จะเลือกใช้ยาตัวใด  จึงจะเหมาะกับคนไข้แต่ละราย
แม้ว่า  โรคที่คนเป็นจะเหมือนกันก็ตามที


สำหรับคนที่เป็นโรคเองละ....?
เขาจะต้องเรียนรู้ยาทุกชนิด  ซึ่งเขากำลังจะหย่อนมันลงไปในท้องของเขา
เป็นอย่างดีด้วยเช่นเดียวกันว่า  ยาชนิดนั้น... 
มันทำหน้าที่อย่างไร ? มีผลดี และผลเสียอย่างไร ?
และอื่น ๆ...


สำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน...
ในขณะนี้  เรามียาจำนวนไม่น้อย  ที่ถูกนำมาใช้รักษาคนไข้เบาหวานชนิดที่ 2
แต่การมียารักษาโรคดังกล่าว  ถึงจะมีจำนวนมากก็จริง...มัน
ไม่ได้หมายความว่า  ยาสามารถทดแทนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้
เช่น การควบคุมด้านอาหาร  และ การออกกำลังกาย
ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไข้จะต้องใช้  ร่วมกับยาที่ได้รับจากแพทย์ผู้ทำการรักษา


ท่านที่เป็นโรคเบาหวาน...
ท่านจะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน 
เมื่อระดับน้ำตาลในกระแสเลือดขณะท้องท้องว่าง  อย่างน้อยมีค่าสูง  126 mg/ dL   
ถ้าระดับน้ำตาลที่วัดได้สูงเกินค่าดังกล่าวไม่มากนัก 
ท่านอาจไม่จำเป็นต้องรับทานยาเบาหวานเลย ท่านเพียแต่....
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม  ก็อาจเพียงพอต่อการรักษาแล้ว


ยารักษาโรคเบาหาน  สามารถลดระดับน้ำตาลได้หลายทาง
น้ำตาลที่อยู่ในเลือดของมนุษย์เรา  ส่วนหนึ่งจะได้จากอาหารที่เรารับทาน
และ ส่วนที่เหลือ  จะได้จากตับของเรา 
โดยการเปลี่ยน "ไขมัน" และ "โปรตีน"  ที่สะสมไว้ในร่างกาย ให้เป็นน้ำตาล


มียาบางตัวทำให้มีน้ำตาลในเลือดน้อยลง  โดยการทำงานที่ตับ, สะสมใน
รูปของไขมัน (fat tissue)   
ส่วนยาตัวอื่น  จะช่วยทำให้น้ำตาลจากเลือด  เคลื่อนย้ายเข้าสู่กล้ามเนื้อได้ดีขึ้น 
ซึ่งมันกระทำได้โดยการเพิ่มประสิทธิภาพของ “อินซูลิน” 
หรือ  เพิ่มระดับของ “อินซูลิน” ในร่างกายให้สูงขึ้น


ยารักษาเบาหวาน  ซึ่งมาจากหลายกลุ่ม  สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดี
บางอย่าง  ถูกผลิตให้รวมกันในเม็ดเดียวกัน (combination pills)


ยารักษาเบาหวาน  ซึ่งทำหน้าที่ลดภาวะ “การต่อต้านอินซูลิน”
(insulin resistance)ได้แก่:

Biguanides:

ยาในกลุ่มนี้ทำหน้าที่ลดน้ำตาลที่สร้างเพิ่มขึ้นจากตับ (Liver)  นอกจากนั้น
ยาในกลุ่มนี้  ยังช่วยให้กล้ามเนื้อดูดซับเอานำตาลจากเลือดได้อีกด้วย
ที่ควรรู้จากยาในกลุ่ม Biguanides :

§  ช่วยลดน้ำหนักตัว  ทำให้ระดับไขมัน  cholesterol ดีขึ้น และ
ช่วยลดอันตรายจากการเกิดโรคหัวใจ

§  ไม่ควรใช้ในคนที่เป็นโรคไต, โรคตับ, และ หัวใจล้มเหลว 
และ  อาจทำให้เกิดท้องล่วงได้


Thiazolidinediones:

ยาในกลุ่มนี้  จะทำหน้าที่ช่วยให้น้ำตาลจากเลือดเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
นอกจากนั้น  มันยังสามารถป้องกันไม่ให้ไขมัน (fat) ที่สะสมในร่างกาย
เปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลได้อีกด้วย


ยาในกลุ่ม  thiazolidinediones ยังให้เกิดทำให้ขาบวม, ปอดบวม
(Pulmonary edema),  และสามารถทำให้โรคหัวใจวายเลวลงได้

§  ยา Rosiglitazone ซึ่งเป็นยาตัวหนึ่งในกลุ่มนี้  ที่มีส่วนสัมพันธ์กับการเพิ่ม
ความเสี่ยงให้เกิดขึ้นกับภาวะหัวใจถูกทำลาย (heart attack) 
จะถูกนำมาใช้ก็ต่อเมื่อยาตัวอื่นๆ ไม่สามารถรักษาโรคได้ผลเท่านั้น
 ยาในกลุ่มนี้  สามารถทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได(osteroporosis)
 สามารถทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น (weight gain)  พบได้บ่อย


 ยาที่ทำให้ระดับของ”อินซูลิน” เพิ่มขึ้น 
(เป็นยาที่ใช้แก้ไขสภาวะ insulin resistance)

Long –acting pancreas stimulators (sulfonylureas):

ยาในกลุ่มนี้  จะช่วยทำให้ตับอ่อนสร้าง  และปล่อยอินซูลินออกมาเพี่มขึ้น
สิ่งที่เราควรรู้เกี่ยวกับยาตัวนี้ ได้แก่:

§  เป็นยาที่มีราคาถูกมาก  มีหลายตัวสามารถรับทานวันละครั้ง
§  ผลข้างเคียง ได้แก่  การทำให้เกิดภาวะน้ำตาลลดต่ำ (hypoglycemia)
§  ทำให้เพิ่มน้ำหนักตัว


Short acting pancreas stimulators (meglitinides, ใช้รับทานพร้อมอาหาร)
ยาในกลุ่มนี้จะช่วยทำให้ตับอ่อนผลิต และปล่อยอินซูลินออกสู่กระแสโลหิตได้
เพิ่มขึ้น    ที่เราควรรู้ได้แก่:

§  ยามในกลุ่มนี้  จะไม่ทำให้เกิดภาวะ hypoglycemia ได้เท่ากับยาใน
กลุ่ม sulfonylureas
§  เป็นยาที่มีประโยชน์ในประเด็นที่  เราไม่สามารถคาดคะเนได้ว่า 
คนไข้จะรับประทานอาหารเมื่อใด
§  เป็นยาที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้บ่อย  และเป็นยาที่ต้องรับประทานสามเวลา
แถมราคาแพงมากกว่าพวก sulfonylureas อีกต่างหาก


Insulin shots:

ใช้สำหรบฉีด เสริมอินซูลินตามที่ร่างกายต้องการ

ยาที่ชะลอการย่อยสลายน้ำตาล (Slow sugar digestion)
Alpha-glucosidase inhibitors:


ยาในกลุ่มนี้จะทำหน้าที่  ชะลอการย่อยอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตบางชนิด
ซึ่งหมายความว่า  เมื่อเรารับทานอาหารชนิดนี้แล้ว 
น้ำตาลจะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็วนัก

§  ยาในกลุ่มนี้จะมีประโยชน์  ถ้าหากรับทานอาหารแล้ว
เป็นเหตุให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูง

§  ยาตัวนี้  จะไม่มีผลกระทบต่อน้ำหนักตัว

§  ผลข้างเคียงของยาตัวนี้  คือมีแก๊สในกระเพาะ  ปวดท้อง  ท้องล่วง 
ซึง เกิดได้บ่อยที่สุดจากการใช้ยาดังกล่าว

§  เป็นยาที่มีฤทธิ์อ่อนที่สุด  เมื่อเทียบกับยากลุ่มอื่น ๆ


 บทบาทของฮอร์โมน (digestive hormones) นอกเหนือจาก อินซูลิน
(The Role of Digestive Hormones Other Than Insulin)
GLP 1 Agent

เป็น Glucagon-like peptide (GLPs) เป็นฮอร์โมนที่สร้างในลำไส้
GLP-1  จะมีผลกระทบกับการย่อยอาหาร  และกระบวนการสร้างน้ำตาล “กลูโกส”


มียาใหม่ ชือ  exenatide ((Byetta)  และ Sitagliptin (Januvia) 
จะเพิ่มผลของ GLP-1  ในระหว่างย่อยอาหาร


สุดท้าย  สามารถเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่าง
หลังการรับประทานอาหาร  มันช่วยให้ตับอ่อนปล่อยอินซูลิน 
มันทำหน้าที่ลดน้ำตาลลง มันทำให้อาหารผ่านจากกระเพาะไปยังลำไส้อย่างช้า ๆ
เป็นเหตุให้น้ำตาลถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตได้อย่างช้าลง


ช่วยลดความอยากรับทานอาหาร  ไม่เพิ่มน้ำหนัก (แต่อาจลดลงเล็กน้อย)
จะไม่ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลด่ำลง(hypoglycemia)
แต่จะเกิดอาการคลื่นไส้ได้


ไม่ควรใช้ยาตัวนี้  ในรายที่เป็นโรค gastroparesis
ซึ่งเป็นรายที่ประสาทกระเพาะถูกทำลาย  ทำให้กระเพาะเคลื่อนไหวได้ช้าอยู่แล้ว
จะช้าลงไปอีก


ยา Byetta...จะต้องฉีดอย่างเดียว


ความปลอดภัยในระยะยาวยังไม่ทราบ
นอกจากนั้น  เรายังพบว่า  ยาเหล่านี้จะมีประโยชน์ในกรณีที่มีปัญหา
เรื่องน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นสูง  ภายหลังอาหาร


Amylin replacement

Amylin เป็นฮอร์โมน  ซึ่งปล่อยออกจากตับของท่านพร้อมๆ กับมันปล่อยอินซูลิน
มียาตัวหนึ่ง ชือ pramlinide (Symlin) จะทำงานคล้าย amylin
และจะออกฤทธิ์ตามที่กล่าวมา โดยมันสามารถทำการควบคุมระดับน้ำตาลในหลายทาง 


มันลดฤทธิ์ของ Glucagon 
ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นให้ตับปล่อยน้ำตาล  Glucose สู่กระแสโลหิต


มันทำหน้าที่  ทำให้กระเพาะทำงานขับเคลื่อนอาหารสู่ลำไส้ให้ช้าลง  และ
ปล่อยน้ำตาลสู่กรแสเลือดได้ช้าลง 
ทำให้ท่านหมดความอยากรับทานอาหาร


ที่ควรรู้  คือ ยาตัวนี้  จะใช้ในคนที่กำลังได้รับ insulin เท่านั้น
และ ให้ทางฉีดเท่านั้น  และต้องแยกฉีดกับอินซูลินอีกด้วย 
อย่าฉีดในตำแหน่งเดียวกันเป็นอันขาด


ยาที่เรานำมาแก้ไขปัญหา เมื่อน้ำตาลลดต่ำ
(Medicine that correct low blood sugar)ได้แก่ Glucose (dextrose) tablets
มันเป็นก่อนน้ำตาลธรรมดา  สามารถดูดซึมสู่กระแสเลือดได้ทันที ภายหลังรับทาน

Glucagon  เป็นยาที่ใช้ฉีดเท่านั้น   จะทำหน้าที่กระตุ้นตับของท่าน
ให้ทำการปล่อยน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดอย่างฉับพลันได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น