July 20, 2014
สำหรับท่านที่มีอาการปวดหลังจากการนั่งขับรถ...
ท่านสามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้ ด้วยการปฏิบัติตามข้อมูลต่อไปนี้...
ในการนั่งขับรถนต์ เป็นเวลานาน ย่อมทำให้คนเราเกิดมีอาการปวดหลังปวด
เอวได้เป็นธรรมดา จะปวดมาก หรือปวดน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคนที่นั่งขับรถว่า
เขานั่งในท่าที่ถูกต้องหรือไม่....
ในคนที่มีอาชีพที่ต้องนั่งขับรถเป็นเวลานาน...
นอกจากจะมีอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อแล้ว ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิด
ปวดหลังปวดคอ, ปวดตามเส้นประสาทขาจากหมอนกระดูกระดับเอวแตก
ซึ่งเคลื่อนหลุดไปกดเส้นประสาทได้ (herniated disk)
ในเมื่อชีวิตของเราต้องดำเนินต่อไป...ทำอย่างไรจึงจะสามารถหลีกเลียงจาก
ภาวะอันไม่พึงประสงค์ตามที่กล่าวได้ คำตอบมีง่าย ๆ นิดเดียว นั่นคือ
ท่านต้องนั่งขับรถยนต์ในท่าที่ถูกต้อง
ท่านั่งที่เหมาะสมสำหรับนั่งขับรถยนต์:
ผลจากการศึกษา ซึ่งตีพิมพ์ใน วารสาร ชื่อ The Journal of Manipulative
and Physiological therapeutics ได้แนะนำเอาไว้ว่า หลังพิงของเบาะนั่ง
(back seat) จะต้องอยู่ในแนว 90 องศากับพื้นราบ ในขณะที่นั่งบนเบาะนั่ง
หัวเข่าจะต้องอยู่เหนือข้อสะโพกสะโพกเล็กน้อย ศีรษะเอียงไปทางด้านหลัง
เล็กน้อย
ในขณะที่ท่านจับพวกมาลัย ข้อศอกให้วางบนที่เท้าแขน (arm rest) โดยให้
มืออยู่ในตำแหน่ง 9 และ 3 นาฬิกา (ไม่ใช้ 10 และ 2 นาฬิกา)
(ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ... air bag สามารถทำงานได้เต็มที่ไม่มีอะไรไปขัดขวาง)
นอกจากคำแนะนำดังกล่าว มีคำแนะนำเสริมดังนี้:
เวลานั่งขับรถ...ท่านต้องแน่ใจว่า หลังของท่านจะต้องแนบชิดกับเบาะด้านหลัง
(back seat) ซึ่งอยู่ในท่าตั้งขึ้น และมีที่รองรับศีรษะ
ใช้หมอนรองรับกระดูกสันหลังส่วนล่าง และต้องทำให้คนนั่งขับรู้สึกสบาย
ปรับที่นั่ง และพวงมาลัยให้รู้สึกสบาย เวลานั่งขับไม่ต้องโน้มตัวไปยังพวงมาลัย
ให้หยุดพักเป็นระยะ ออกจากรถพร้อมกับทำการยืดเส้นยืดสายทุกๆ
20 – 30 นาที
ถ้าท่านเกิดมีอาการปวดหลังในขณะขับรถ ให้ประคบบริเวณเจ็บปวดด้วยความเย็น
ด้วยการใช้ผ้าห่อน้ำแข็งวางไว้ในตำแหน่งระหว่างหลังและเบาะทางด้านหลัง
หรืออาจประคบด้วยความาร้อน (สลับกัน) โดยใช้เวลาประมาณ 15 – 20 นาที
.johnshopkinshealthalerts
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น