วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

หยุดยาอย่างไร...ไม่ให้เป็นภัย P 21: A General guide to tapering medicine : Acid suppressants


June 14, 2014

ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร (Acid suppressants)
มีคนเป็นจำนวนไม่น้อยที่กินยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ทั้งๆ ที่ไม่มี
ข้อชี้บ่งให้กินยาดังกล่าว  เช่น ได้หยุดใช้ยา NSAIDs หรือเชื้อ H. Pylori
ถูกทำลายจนหมดสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  แต่ยังปรากฏว่าใช้ยาลดกรด

ในการใช้ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร...
 ส่วนมากจะให้เพื่อควบคุมอาการ  โดยการใช้ยาในขนาดต่ำ ๆ หรือใช้ยา
เมื่อต้องการมากกว่าที่จะใช้ในระยะยาว

ในการหยุดยาลดกรด ทั้ง  PPIs  และ  H2RA
เขาแนะนำให้หยุดด้วยกรรมวิธีลดขนาดของยา  เพื่อหลีกเลี่ยงไม่
ให้เกิดการหลังกรดในกระเพาะเพิ่มขึ้น (rebound hypersecretion of gastric acid)

มีบ่อยครั้งที่เกิด rebound hypersecretion ของกรดในกระเพาะ  ถูกเข้าใจผิดว่า 
เป็นโรคภายใน (โรคกระเพาะซะเอง) จึงเป็นเหตุให้มีการสั่งให้ยาลดกรด
โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น

ภายหลังการหยุดยาลดกรดในกระเพาะ – omeprazole การสร้างกรดในกระเพาะ
จะกลับสู่สภาพเดิม (baseline) ภายใน 3 – 5 วัน

แนวทางการหยุดยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
(A guide to discontinuing acid suppressants)

ให้หยุดยาลดกรด...โดยการลดขนาดของยาลงครึ่งหนึ่ง เป็นเวลา 4 - 8 อาทิตย์
จากนั้นให้พิจารณาใช้ยา antacid

อาการที่เกิดจากการหยุดยา ได้แก่ มีการอักเสบของท่ออาหาร และอาหารไม่ย่อย
(recurrence of oesophagitis และ indigestion)

ยกตัวอย่าง:

 Proton pump inhibitors (PPI)
ให้พิจารณาหยุดยา โดยการกินยาวันเว้นวัน เพราะยา PPIจะเป็นแคพซูล
ไม่สามารถแบ่งครึ่งได้   ผลของการหยุดยา PPI สามารถทำให้เกิดการหลั่งกรดใน
กระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น ( rebound hypersecretion of acid)

 Histamine Recoptor antagonists ( H2RA) :
ให้พิจารณาหยุดยาด้วยการลดขนาดยาอย่างช้า ๆ
หลังการหยุดยา สามารถทำให้เกิดอาการปวดท้องขึ้นมาใหม่เป็น rebound dyspepsia 
ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมีการหยุดยา H2RA อย่างฉับพลัน

<< BACK   NEXT >> P 22: A General guide to tapering medicine - Bisphosphonates

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น